รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (7 ส.ค.) ว่า รัฐบาลได้ทุ่มเงิน 5.92 ล้านล้านเยน (4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันที่ 29 เม.ย. เพื่อหนุนค่าเงินเยน ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงครั้งใหญ่ที่สุดภายในวันเดียว ตามมาด้วยอีก 3.87 ล้านล้านเยนในสองวันต่อมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ทางการญี่ปุ่นได้ออกมายืนยันวันและปริมาณการเข้าซื้อเงินเยนและเทขายเงินดอลลาร์ระหว่างเดือนเม.ย.-ถึงมิ.ย. โดยวงเงินทั้งหมดที่ใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวแตะ 9.79 ล้านล้านเยน ซึ่งถือเป็นสถิติเข้าซื้อเงินเยนสูงสุดเมื่อรวมทั้งไตรมาส
การที่เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้ทางการญี่ปุ่นเกิดความกังวล ซึ่งในขณะนั้นขู่ว่าจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับตลาดปริวรรตเงินตราที่มีความผันผวนมากเกินไป
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านั้นดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปีเทียบเงินเยน โดยอยู่เหนือระดับ 160 เยน แต่ต่อมา ดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงราว 5 เยนในช่วงเวลาสั้น ๆ ลงสู่ระดับ 154 เยนในตลาดนิวยอร์กเมื่อวันที่ 29 เม.ย. และเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงจาก 157 เยน เหลือ 153 เยน
ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงการคลังญี่ปุ่นตัดสินใจเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา ทางกระทรวงฯ จะขอให้ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) เป็นผู้ดำเนินการแทน