โฆษกของบริษัทดิสนีย์ (Disney) เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า บริษัทมีแผนทุ่มงบมหาศาลอย่างน้อยปีละ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อผลิตภาพยนตร์และรายการทีวีในสหราชอาณาจักร ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ตลอด 5 ปีข้างหน้า
โฆษกระบุว่า งบประมาณดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งการสร้างภาพยนตร์, คอนเทนต์สำหรับ Disney+, รายการของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) รวมถึงรายการทีวีอื่น ๆ
ความเคลื่อนไหวของดิสนีย์ครั้งนี้คาดว่าเป็นผลมาจากความสำเร็จของภาพยนตร์แอนิเมชันภาคต่ออย่าง "Inside Out 2" (มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง 2) ที่กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ "Deadpool & Wolverine" (เดดพูล & วูล์ฟเวอรีน) ที่เพิ่งเข้าฉายในไตรมาสนี้ ก็โกยรายได้ไปแล้วกว่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ได้รายงานแผนการลงทุนของดิสนีย์ โดยอ้างคำพูดของนายยัน เคิปเปน ประธานดิสนีย์ประจำภูมิภาคยุโรป ที่ระบุว่า "เรารู้สึกเหมือนกำลังกลับมาผงาดอีกครั้งในวงการหนัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ"
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ดิสนีย์ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ธุรกิจสวนสนุกอาจซบเซาลงในช่วงไตรมาสต่อ ๆ ไป ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง 1.1% เมื่อวันพุธ (7 ส.ค.)
ทั้งนี้ เว็บไซต์ของดิสนีย์ระบุว่า ธุรกิจของดิสนีย์ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ครอบคลุมกว่า 130 ตลาด ทั้งด้านการค้าและการดำเนินงาน โดยมีทั้งบริการ Disney+ ภาพยนตร์ รายการทีวี การขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ และการผลิตรายการในท้องถิ่น