ตลาดอินเดียกลายเป็นความหวังใหญ่สำหรับบรรดาบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำที่ต้องการอุดช่องว่างการเติบโตทางธุรกิจ ในขณะที่เศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะชะลอตัว
เนื่องจากเศรษฐกิจอินเดียเติบโตเร็วที่สุดในบรรดาตลาดเกิดใหม่ หลายบริษัทจึงพยายามออกสินค้ารสชาติใหม่ ๆ และมีให้เลือกหลากหลายขนาด เพื่อดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมหาศาลในอินเดีย รวมทั้งเจาะตลาดในพื้นที่ชนบท
นายไบรอัน ยาคอบเซน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแอนเนกซ์ เวลท์ แมเนจเมนต์ (Annex Wealth Management) ระบุว่า "ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทต่าง ๆ มุ่งความสนใจไปที่ตลาดจีน แต่ในทศวรรษหน้า จุดสนใจจะเปลี่ยนไปที่อินเดียแทน" พร้อมเสริมว่า "คุณต้องไปยังตลาดที่ปัจจัยด้านประชากรและเศรษฐกิจส่งผลดีต่อคุณ"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอินเดีย คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ฤดูมรสุมที่บรรเทาลง และการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน จะผลักดันให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคฟื้นตัวในไตรมาสต่อ ๆ ไป
บริษัทวิจัย โกลบอลดาต้า (GlobalData) ประมาณการว่า ส่วนแบ่งการตลาดรวมของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ 5 อันดับแรก ได้แก่ โคคา-โคล่า, พีแอนด์จี, เป๊ปซี่โค, ยูนิลีเวอร์ และเรกคิทท์ จะเพิ่มขึ้นเป็น 20.53% ในปี 2566 จาก 19.27% ในปี 2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม และของใช้ในบ้าน
ในทางตรงกันข้าม ส่วนแบ่งการตลาดรวมของบริษัทเหล่านี้ในประเทศจีนคาดว่าจะลดลงเหลือ 4.30% ในปี 2566 จาก 4.37% ในปี 2565
"จีนเผชิญกับสถานการณ์โควิดที่ยาวนานและยืดเยื้อ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจหดตัวในช่วงสั้น ๆ และนับตั้งแต่นั้นมาการเติบโตก็ซบเซา ในทางตรงกันข้าม อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียอยู่ที่ราว 4% ซึ่งถือว่าสดใสสำหรับตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค" นายเค รามากฤษนัน กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียใต้ของคันทาร์ เวิลด์พาแนล (Kantar Worldpanel) กล่าว