การเติบโตของประชากรนิวซีแลนด์ชะลอตัวลงในไตรมาส 2/2567 เนื่องจากอัตราการย้ายถิ่นฐานเข้าประเทศลดลง ขณะที่ชาวนิวซีแลนด์เองออกไปหางานทำในต่างประเทศกันมากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์เปิดเผยในวันจันทร์ (19 ส.ค.) ว่า จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นประมาณ 7,000 คนในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 อันเป็นผลมาจากการย้ายถิ่นฐานเข้าประเทศสุทธิเพียง 2,000 คน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดรายไตรมาสนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ขณะที่การเพิ่มของประชากรตามธรรมชาติ (natural increase) อยู่ที่ 5,100 คน
ขณะที่เมื่อเทียบเป็นรายปี พบว่า จำนวนประชากรในรอบปีจนถึงเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 93,500 คน หรือ 1.8% สู่ระดับ 5,338,500 คน ซึ่งน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 123,400 คน หรือ 2.4% ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.
ด้านจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานเข้าประเทศสุทธิในรอบปีจนถึงเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 73,200 คน ลดลงจาก 103,400 คนในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมี.ค. ขณะที่การเพิ่มขึ้นของประชากรตามธรรมชาติอยู่ที่ 20,300 คน
รายงานระบุว่า จำนวนชาวนิวซีแลนด์ที่มองหาโอกาสการทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในออสเตรเลีย พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซาทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นและความต้องการพนักงานต่างชาติลดลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางนิวซีแลนด์เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งเร็วกว่าที่ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ พร้อมระบุว่า จำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานเข้าประเทศที่ลดลงเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง โดยทางธนาคารคาดว่า ประชากรวัยทำงานที่จะย้ายถิ่นฐานเข้าประเทศจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 31,000 คนในปีนี้ และ 23,300 คนในปี 2568