สกุลเงินรูปีของอินเดียแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ แต่รูปียังคงเป็นสกุลเงินที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินของบรรดาประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียที่ต่างก็แข็งค่าขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบหลายเดือน โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ณ เวลา 10.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ สกุลเงินรูปีอยู่ที่ระดับ 83.83 รูปีต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดของวานนี้ที่ 83.87 รูปีต่อดอลลาร์
แต่เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. รูปีถือเป็นสกุลเงินที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในเอเชีย โดยอ่อนค่าลง 0.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินของประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียแข็งค่าขึ้นถึง 4%
กระแสเงินทุนที่ไหลออกจากตลาดหุ้น และความต้องการสกุลเงินดอลลาร์จากกลุ่มผู้นำเข้า ประกอบกับการที่นักลงทุนลดการทำธุรกรรม Carry Trade ในช่วงต้นเดือนนี้ เป็นปัจจัยที่สกัดแรงบวกของสกุลเงินรูปี แม้ว่าสกุลเงินของประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแข็งค่าขึ้นก็ตาม โดยข้อมูลจากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติได้ถอนเงินทุนออกจากตลาดหุ้นอินเดียราว 2.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ธุรกรรม Carry Trade คือการที่นักลงทุนกู้ยืมสกุลเงินที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำ เพื่อนำไปซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
อามิต พาบารี กรรมการผู้จัดการจากบริษัท CR Forex ในเมืองมุมไบ กล่าวว่า สกุลเงินรูปีเผชิญความท้าทายหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการที่อินเดียขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น กระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดอย่างต่อเนื่อง และการที่กลุ่มผู้ส่งออกมีความต้องการสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างมาก อย่างไรก็ดี การที่ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ก็อาจทำให้รูปียังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ที่ผ่านมานั้น RBI ได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราหลายครั้ง ซึ่งช่วยให้รูปียังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 84 รูปีต่อดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว