สกุลเงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ (23 ส.ค.) และคาดว่าจะแข็งค่าต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการแข็งค่าติดต่อกันรายสัปดาห์ที่นานที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
เงินหยวนได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทต่าง ๆ เริ่มใช้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เงินหยวนแข็งค่าในวงจำกัดเพราะยังมีความกังวลในตลาด ก่อนการแถลงสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่แจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในวันนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเวลา 10:00 น. ตามเวลาไทย เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.07% ที่ 7.1428 หยวนต่อดอลลาร์ หากยังสามารถรักษาแรงซื้อได้จนถึงตลาดปิดทำการ เงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ และจะทำสถิติแข็งค่าติดต่อกันรายสัปดาห์ที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564
ลินน์ ซอง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สาขาจีนของบริษัทไอเอ็นจี (ING) กล่าวว่า "แรงกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่านั้นผ่อนคลายลง เพราะเราได้เห็นดอลลาร์อ่อนค่าในช่วงหนึ่งหรือสองเดือนที่ผ่านมา"
"สาเหตุหลักนั้นมาจากปัจจัยภายนอก เนื่องจากตลาดมีความคาดหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และหากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนอาจช่วยหนุนการฟื้นตัวของเงินหยวนต่อไป"
รายงานระบุว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้กำหนดอัตราค่ากลางของการซื้อขายเงินหยวนแต่ละวันในระดับที่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์มานานกว่าหนึ่งปี ซึ่งนักลงทุนและนักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นความพยายามของจีนในการรักษาเสถียรภาพและหนุนค่าเงินหยวน
ความแตกต่างระหว่างอัตราอ้างอิงทางการและการคาดการณ์ของตลาดเริ่มปรับตัวลดลงในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ PBOC กำหนดอัตราค่ากลางการซื้อขายเงินหยวนที่ 7.1358 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งสูงกว่าที่สำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ถึง 0.0122 หยวน โดยเงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
ส่วนค่าเงินหยวนในตลาดออฟชอร์ซื้อขายที่ระดับ 7.1425 หยวนต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 0.06% ในตลาดเอเชีย