ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เริ่มการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Tests) เกี่ยวกับการลงทุนในพันธบัตรของสถาบันการเงินภายในประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสถาบันการเงินจะสามารถรับมือกับความผันผวนในตลาดได้ หากการซื้อขายในตลาดพันธบัตรเกิดพลิกผันหลังจากที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานมานี้
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลนิวส์ของทางการจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า PBOC ได้เริ่มทำการทดสอบภาวะวิกฤตของสถาบันการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปเมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางความกังวลถึงความเสี่ยงที่ว่าภาวะขาขึ้นของตลาดพันธบัตรอาจนำไปสู่การเก็งกำไรฝั่งเดียว (one-sided bets) ในพันธบัตรรัฐบาลประเภทระยะยาว
แหล่งข่าวระบุว่า การทดสอบภาวะวิกฤตของ PBOC อาจไม่ได้มุ่งเป้าผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่การที่ PBOC ดำเนินการดังกล่าวนั้นเพราะต้องการประเมินว่าสถาบันการเงินของจีนสามารถรับมือกับความผันผวนที่รุนแรงในตลาดได้หรือไม่ ด้วยสินทรัพย์ที่สถาบันการเงินถือครองอยู่ในปัจจุบัน โดยในกรณีของตลาดพันธบัตรนั้น เจ้าหน้าที่ของ PBOC อาจต้องการประเมินดูว่าสถาบันการเงินจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น 0.10%, 0.20% หรือ อาจจะสูงถึง 0.50% อย่างฉับพลัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความคึกคักในตลาดพันธบัตรจีนเริ่มอ่อนแรงลงหลังจากทางการจีนออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาภาวะการซื้อขายที่ร้อนแรง โดยมาตรการดังกล่าวรวมถึงการสั่งให้ธนาคารของรัฐบาลขายพันธบัตรที่ถือครองอยู่และเรียกประชุมบรรดาสถาบันการเงิน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้กิจกรรมการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลจีนร่วงลง ในขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อประเมินผลกระทบจากการดำเนินการของทางการจีน