รัฐบาลแคนาดาประกาศเรียกเก็บภาษีในอัตรา 100% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในจีน ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาเรียกเก็บ และเป็นไปในทิศทางเดียวกับแผนการของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC)
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา และคณะรัฐมนตรี ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ส.ค.)
นอกจากนี้ นายกฯ แคนาดาเปิดเผยว่า แคนาดาจะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากจีนด้วย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนยังไม่ได้ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ แต่คาดการณ์ว่าจีนจะหยิบยกเรื่องการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ ขึ้นมาหารือในระหว่างที่ซัลลิแวนเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในวันนี้ (27 ส.ค.)
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหลายรายการ ครอบคลุมถึงรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ โซลาร์เซลล์ เหล็ก อะลูมิเนียม และเครื่องมือแพทย์
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า การที่รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ นั้น ส่งผลให้บริษัทจีนไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผลกำไร ทำให้มีความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมในการค้าโลก
"เราดำเนินการอย่างสอดคล้องและคู่ขนานไปกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกที่ตระหนักดีว่าสถานการณ์นี้คือความท้าทายที่เราทุกคนกำลังเผชิญ" นายกฯ แคนาดากล่าวถึงการเรียกเก็บภาษี "เราต้องลุกขึ้นสู้ มิเช่นนั้นเราก็ต้องแข่งขันกันลดต้นทุนจนสินค้าไม่มีคุณภาพ"
ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนซึ่งแคนาดานำเข้ามาในประเทศนั้น มีเพียงรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทเทสลา (Tesla) ซึ่งผลิตที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้
"แคนาดาจำเป็นต้องทำตามจุดยืนของสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาถึงการร่วมกลุ่มทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ โดยสินค้าส่งออกของแคนาดามากกว่า 75% มีปลายทางอยู่ที่สหรัฐฯ" กีย์ แซงต์ฌากส์ อดีตเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศจีนกล่าว
อดีตเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศจีนเตือนว่า จีนอาจโต้กลับแคนาดาในอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยคาดว่าอาจจะเป็นข้าวบาร์เลย์และเนื้อหมู เนื่องจากจีนสามารถนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากประเทศอื่นได้