ธนาคารกลางอิสราเอลมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.5% ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเมื่อวันพุธ (28 ส.ค.) ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่แอนดรูว์ อาเบียร์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางเผยว่า ธนาคารมีแนวโน้มจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากความขัดแย้งในฉนวนกาซาที่ยังคงดำเนินอยู่
รองผู้ว่าการแบงก์ชาติอิสราเอลกล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า "ผมจะประหลาดใจมากหากสถานการณ์ต่าง ๆ เข้าที่เข้าทางให้สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ก่อนสิ้นปี ไม่น่าเชื่อว่าสงครามดำเนินมานานขนาดนี้แล้ว และสิ่งนี้ชะลอการเติบโต แถมยังส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อด้วย และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมเงินเฟ้อออกจากกรอบเป้าหมายของเรามาแตะที่ 3.2% อีกครั้ง"
อาเบียร์ระบุว่า นักวิเคราะห์ตลาดมองว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแตะที่ 3.5% ภายในเดือนม.ค. พร้อมเสริมว่า "ในความคิดผม มันจะต้องใช้เวลาถึงปลายปีหน้าก่อนจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายอีกครั้ง" โดยอ้างอิงถึงกรอบเป้าหมายที่ 1-3%
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอิสราเอลระบุถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งที่ยังไม่สิ้นสุดลง โดยระบุในแถลงการณ์ว่า "นับตั้งแต่ที่การสู้รบปะทุขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และผลกระทบทางเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น ความไม่แน่นอนเหล่านี้ ซึ่งรวมไปถึงความไม่แน่นอนทางการคลัง ได้สะท้อนให้เห็นในส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรรัฐบาลอิสราเอลกับพันธบัตรสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง"