นิปปอน สตีล คอร์ป (Nippon Steel Corp) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่นประกาศในวันนี้ (29 ส.ค.) ว่า จะทุ่มเม็ดเงินลงทุนเพิ่มอีก 1.3 พันล้านดอลลาร์ในยูไนเต็ด สเตทส์ สตีล คอร์ป (United States Steel Corp) หรือยูเอสสตีลของสหรัฐฯ ซึ่งดูเหมือนเป็นความพยายามที่จะช่วยทำให้การเข้าซื้อกิจการบริษัทเหล็กชื่อดังของสหรัฐฯ บรรลุผลสำเร็จ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการคัดค้านจากสหภาพแรงงานเหล็กกล้า (United Steelworkers) ของสหรัฐ โดยการลงทุนล่าสุดในโรงงานเหล็กสองแห่งของยูเอสสตีลจะเพิ่มเติมจากเงินลงทุนเดิม 1.4 พันล้านดอลลาร์ที่นิปปอน สตีลได้เคยให้คำมั่นว่าจะลงทุนในยูเอสสตีล
นิปปอน สตีลจะลงทุนอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์ที่โรงงานมอน วัลเลย์ เวิร์คส์ (Mon Valley Works) ในรัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตเหล็กคุณภาพสูงสำหรับรถยนต์ และสร้างงานเพิ่มขึ้น
ส่วนเงินทุนอีก 300 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้ในการปรับปรุงโรงงานแกรี่ เวิร์คส์ (Gary Works) ในรัฐอินเดียนา เพื่อยืดอายุการดำเนินงานของโรงงานได้นานถึง 20 ปี
"เราพยายามที่จะจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพสูงที่ผลิตในสหรัฐฯ ให้กับลูกค้าชาวอเมริกัน ผลิตโดยคนงานชาวอเมริกัน และเพื่อรับประกันอุปทานเหล็กของสหรัฐฯ ในอนาคต" ทาคาฮิโระ โมริ รองประธานบริหารของนิปปอน สตีลระบุในแถลงการณ์
นิปปอน สตีลได้ประกาศแผนการเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล มูลค่า 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อขยายการดำเนินงานในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าความต้องการเหล็กจะเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้ได้ถูกคัดค้านจากสหภาพแรงงานเหล็กกล้าของสหรัฐเนื่องจากพวกเขาวิตกเกี่ยวกับความมั่นคงของตำแหน่งงาน รวมถึงจากโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน