ความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันการผลิตเอทานอลจากข้าวโพดมากขึ้น ส่งผลให้อินเดียเปลี่ยนสถานะจากผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่ของเอเชียมาเป็นผู้นำเข้าสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับกลุ่มผู้ผลิตสัตว์ปีกท้องถิ่น และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อุปสงค์นำเข้าที่พุ่งขึ้นเป็นผลมาจากการที่อินเดียประกาศปรับขึ้นราคารับซื้อเอทานอลที่ทำจากข้าวโพดเมื่อเดือนม.ค.ปีนี้ เพื่อผลักดันการใช้เอทานอลจากข้าวโพดแทนเอทานอลจากอ้อย ตามนโยบายของรัฐบาลที่เดินหน้าส่งเสริมให้หันมาใช้เอทานอลในน้ำมันเบนซินเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ขณะที่ยังคงปริมาณน้ำตาลราคาถูกในท้องตลาด
การเพิ่มการนำเข้าข้าวโพดของอินเดียนั้นอาจช่วยหนุนราคาข้าวโพดทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี แต่ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ผลิตสัตว์ปีกในอินเดียต้องการให้รัฐบาลยกเลิกภาษีนำเข้าและยกเลิกการแบนข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม หรือข้าวโพดจีเอ็ม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่พุ่งสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากราคาข้าวโพดในท้องถิ่นสูงกว่าราคามาตรฐานโลก ซึ่งการห้ามใช้ข้าวโพดจีเอ็มสร้างข้อจำกัดให้กับบรรดาผู้ผลิตสัตว์ปีก
โดยปกติแล้วอินเดียส่งออกข้าวโพด 2-4 ล้านตันต่อปี แต่คาดว่าการส่งออกในปี 2567 จะลดลงเหลือเพียง 450,000 ตัน และคาดว่าอินเดียจะนำเข้าข้าวโพดมากเป็นประวัติการณ์ถึง 1 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่มาจากเมียนมาและยูเครน ซึ่งปลูกข้าวโพดไม่ดัดแปลงพันธุกรรม