ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานการประเมินภาวะเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งประจำอยู่ใน 12 เขตของสหรัฐฯ และรวบรวมข้อมูลจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนายธนาคารในภูมิภาค ทำให้ Beige Book สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวงกว้าง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูล Beige Book ยังระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ต้นทุนการผลิตปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่
"กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวเล็กน้อยใน 3 เขต ขณะที่จำนวนเขตที่รายงานว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจทรงตัวหรือชะลอตัวลงนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 5 เขต เป็น 9 เขตในการสำรวจครั้งล่าสุด ขณะเดียวกันบรรดานายจ้างเลือกสรรมากขึ้นในการจ้างงาน และมีแนวโน้มน้อยลงที่จะเพิ่มการจ้างงาน โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์และความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจ" เฟดระบุในรายงาน Beige Book ซึ่งได้จากการสำรวจความเห็นของธุรกิจในแต่ละเขตที่มีสำนักงานของเฟดตั้งอยู่ โดยการสำรวจจัดทำขึ้นจนถึงวันที่ 26 ส.ค.
ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงเล็กน้อยในเขตส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น เฟดสาขาริชมอนด์รายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคในเขตนี้ชะลอตัวลงเล็กน้อย ขณะที่บริษัทค้าปลีกสินค้าจำพวกฮาร์ดแวร์ระบุว่า ยอดขายเฉลี่ยปรับตัวลดลง และยอดขายรถยนต์ชะลอตัวลงเนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงทำให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น
รายงาน Beige Book ล่าสุดทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนพ.ย.และธ.ค.