บริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase & Co.) ได้ปรับลดคำแนะนำการซื้อหุ้นจีน โดยระบุว่าถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมไปถึงปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน
ทีมนักกลยุทธ์ของเจพีมอร์แกนซึ่งนำโดยเปโดร มาร์ตินเปิดเผยในรายงานเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ว่า เจพีมอร์แกนได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทจีนลงสู่ระดับ "Neutral (คงน้ำหนักการลงทุน)" จากระดับ "Overweight (เพิ่มน้ำหนักการลงทุน)" โดยระบุว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้าระลอกใหม่ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะสร้างแรงกดดันต่อหุ้นบริษัทจีนไปจนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ขณะที่ความพยายามของรัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจนั้น ยังถือว่าไม่มากพอ
"ผลกระทบของความเป็นไปได้ที่จะเกิด 'สงครามภาษีระลอกใหม่' (ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก 20% เป็น 60%) นั้น อาจมีนัยสำคัญมากกว่าสงครามภาษีในช่วงแรก และเมื่อพิจารณาในเชิงโครงสร้างแล้ว เราคาดว่าการเติบโตในระยะยาวของจีนมีแนวโน้มอ่อนแอลง เนื่องจากการย้ายห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และปัญหาต่าง ๆ ภายในประเทศของจีนที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้" ทีมนักกลยุทธ์ของเจพีมอร์แกนระบุในรายงาน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเจพีมอร์แกน มีขึ้นหลังจากธนาคารรายใหญ่หลายแห่งต่างคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวต่ำกว่าระดับ 5% ในปีนี้