สิงคโปร์และอินเดียลงนามในข้อตกลง 4 ฉบับเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เซมิคอนดักเตอร์ การศึกษา และสุขภาพ
การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ดังกล่าวมีขึ้นในวันนี้ (5 ก.ย.) โดยมี ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ร่วมเป็นสักขีพยาน ระหว่างที่นายกฯ อินเดียเดินทางเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
กระทรวงการพัฒนาดิจิทัลและสารสนเทศ (MDDI) ของสิงคโปร์ เปิดเผยในวันนี้ว่า บันทึกความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น
MDDI ระบุด้วยว่า ข้อตกลงนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นระหว่างเศรษฐกิจดิจิทัลของสิงคโปร์และอินเดีย ซึ่งความร่วมมือหลักภายใต้ข้อตกลงนี้ประกอบด้วยการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการไหลของข้อมูล รวมถึงการสนับสนุนความเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสตาร์ตอัปและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจากทั้งสองประเทศ
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (MTI) ของสิงคโปร์ระบุว่า บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์จะสนับสนุนการเชื่อมโยงและเสริมสร้างระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ที่เสริมกันของสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่อินเดียหวังที่จะสร้างศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการผลิตชิป ส่วนผู้ประกอบการของสิงคโปร์ก็มีความสนใจที่จะรุกเข้าสู่ศูนย์กลางเกิดใหม่ในระดับโลก
กระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ระบุว่า ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาและการพัฒนาทักษะนั้น ทั้งสองประเทศหวังที่จะส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือในการเสริมสร้างศักยภาพด้านเทคนิคศึกษาและอาชีวศึกษา
นอกจากนี้ บันทึกความเข้าใจยังครอบคลุมถึงความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ความร่วมมือด้านการฝึกอบรมครู และการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะใหม่และการยกระดับทักษะ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีแผนที่จะสนับสนุนการฝึกงานของนักศึกษาในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย
ส่วนกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ (MOH) เปิดเผยว่า ในการทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในด้านสุขภาพและการแพทย์นั้น ทั้งสองประเทศมีแผนที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการดูแลสุขภาพ การศึกษาด้านการแพทย์ การวิจัย และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล นอกจากนี้ ข้อตกลงยังรวมถึงความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น การติดตามโรค การดูแลสุขภาพมารดาและเด็ก การป้องกันโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการรับมือโรคระบาดใหญ่ด้วย