ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางอาร์เจนตินาระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนส.ค.ของอาร์เจนตินาจะลดลงสู่ระดับ 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน จากระดับ 4% ในเดือนก.ค.
ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายปี คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.จะอยู่ที่ระดับ 123% ลดลงจากระดับ 263.4% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของอาร์เจนตินาจะอยู่ที่ 3.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนเล็กน้อย
ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวได้ได้จัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 28 - 30 ส.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ผ่านมานั้น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและภาวะเงินเฟ้อที่สูงในอาร์เจนตินาได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้บริโภคและกระทบยอดขายสินค้าต่าง ๆ เช่น เนื้อวัว ขณะที่นโยบายรัดเข็มขัดของประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์ ทำให้โครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐต้องหยุดชะงัก และส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างครั้งใหญ่ในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาคก่อสร้าง
ปธน.มิเลย์ซึ่งเป็นอดีตนักเศรษฐศาสตร์ยืนยันว่า อาร์เจนตินาจำเป็นต้องจัดระเบียบการเงิน หลังจากเผชิญปัญหาการขาดดุลงบประมาณเรื้อรังที่นำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้สาธารณะหลายครั้งและบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนธ.ค. 2566 ปธน.มิเลย์ได้สร้างความคึกคักให้กับตลาดด้วยการมุ่งเน้นให้เกิดการเกินดุลทางการคลัง โดยเขายืนยันว่าการใช้ยาแรงทางการคลังเป็นสิ่งจำเป็น และเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในที่สุด