จีนเตรียมเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าลงทุนในภาคการผลิตได้อย่างเต็มรูปแบบ และจะอนุญาตให้บริษัทจากต่างประเทศลงทุนในภาคบริการสุขภาพได้มากขึ้น ซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดของปักกิ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ
แถลงการณ์จากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ซึ่งเผยแพร่วานนี้ (8 ก.ย.) ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ทางการจีนจะยกเลิกมาตรการชุดสุดท้ายที่จำกัดการลงทุนจากต่างประเทศในภาคการผลิต เช่น ข้อกำหนดที่ให้ชาวจีนถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทสิ่งพิมพ์ และการห้ามต่างชาติลงทุนในการผลิตยาสมุนไพรจีน เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการขยายการลงทุนและเปิดกว้างสำหรับอุตสาหกรรมบริการ รวมทั้งสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศในภาคส่วนนี้ โดยทางการกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการแก้ไขนโยบาย ซึ่งแนวทางสำคัญประการหนึ่งคือการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มเติมในภาคบริการ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แถลงการณ์อีกฉบับบนเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์จีนยังมีการประกาศนโยบายต่าง ๆ เพื่อเปิดรับการลงทุนในภาคบริการสุขภาพมากขึ้น โดยระบุว่ารัฐบาลจะอนุญาตให้กลุ่มทุนจากต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่สเต็มเซลล์ การวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมและการรักษาโรคในเขตการค้าเสรีนำร่องในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางตุ้ง และไห่หนาน ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ทำการตลาด และได้รับการอนุมัติให้ผลิตแล้วจะสามารถใช้ได้ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้จัดตั้งโรงพยาบาลที่ต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมดในปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ หนานจิง ซูโจว ฝูโจว กว่างโจว เซินเจิ้น และเกาะไหหลำหรือไห่หนานอีกด้วย