ราม โมฮัน ไนดู กินจาราปู รัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดียเปิดเผยในวันนี้ (12 ก.ย.) ว่า อินเดียและจีนได้หารือกันเกี่ยวกับการกลับมาเปิดเที่ยวบินโดยสารตรงระหว่าง 2 ประเทศอีกครั้ง
การหารือครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดีย และ ซ่ง จื้อหยง หัวหน้าสำนักงานการบินพลเรือนของจีน
ไนดูระบุบนโพสต์ในเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ว่า "ในฐานะประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียแปซิฟิกว่าด้วยการบินพลเรือนครั้งที่ 2 ผมได้ใช้แพลตฟอร์มนี้ เพื่อจัดการประชุมนอกรอบกับคณะผู้แทนต่างประเทศ โดยเช้านี้ ผมได้ประชุมร่วมกับเลขาธิการ ศรี วุมลุนมัง วัลนัม และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ จากกระทรวงของผม โดยมี ซ่ง จื้อหยง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบินพลเรือนระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้เที่ยวบินโดยสารประจำระหว่างเรากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งโดยเร็ว"
อย่างไรก็ตาม ไนดูไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหารือกับคณะผู้แทนจีน
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นนอกรอบการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียแปซิฟิกว่าด้วยการบินพลเรือนครั้งที่ 2 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่จัดขึ้นที่กรุงเดลี
เที่ยวบินตรงระหว่างอินเดียและจีนต้องหยุดให้บริการเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ การที่ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งบริเวณชายแดนทางตะวันออกของลาดักห์เมื่อปี 2563 เที่ยวบินตรงระหว่างกันจึงยังไม่กลับมาให้บริการ แม้ว่าการเดินทางทางอากาศทั่วโลกกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิดแล้วก็ตาม
ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า จีนกดดันอินเดียให้กลับมาเปิดเที่ยวบินตรงระหว่าง 2 ประเทศอีกครั้ง แต่อินเดียปฏิเสธ
ทั้งนี้ ก่อนเกิดโควิดระบาด มีเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศมากกว่า 500 เที่ยวบินต่อเดือน โดยส่วนใหญ่ให้บริการโดยสายการบินจีน ได้แก่ แอร์ไชน่า (Air China), ไชน่าอีสเทิร์น (China Eastern) และไชน่าเซาเทิร์น (China Southern) ส่วนสายการบินอินเดียอย่างแอร์อินเดีย (Air India) และอินดิโก (IndiGo) ให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
เนื่องจากมีการระงับเที่ยวบินตรง การเดินทางระหว่างสองประเทศจึงต้องอาศัยเที่ยวบินที่เชื่อมต่อจากสนามบินศูนย์กลาง เช่น ฮ่องกง, กรุงเทพ และสิงคโปร์ ซึ่งทำให้ระยะเวลาและต้นทุนการเดินทางเพิ่มขึ้น