เกาหลีใต้อนุมัติการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์บริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศ เพื่อชุบชีวิตโครงการที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปัดตกโดยคณะบริหารชุดก่อนซึ่งยึดถือนโยบายต่อต้านนิวเคลียร์
คณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ในวันนี้ (12 ก.ย.) ว่า คณะกรรมการอนุมัติการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 และ 4 ที่เมืองอุลจิน โดยเตาปฏิกรณ์แต่ละเครื่องจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 1.4 กิกะวัตต์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เกาหลีใต้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูพลังงานนิวเคลียร์ โดยประธานาธิบดียุน ซอกยอล ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2565 ได้ดำเนินนโยบายสวนทางกับอดีตปธน.และฟื้นฟูบทบาทของพลังงานนิวเคลียร์เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยทางการเกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะให้พลังงานนิวเคลียร์มีสัดส่วนคิดเป็น 36% ของการผลิตพลังงานทั้งหมดภายในปี 2581 เพิ่มขึ้นจาก 30% ในปัจจุบัน
โช นัมโฮ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนนี้ว่า เกาหลีใต้ตั้งเป้าหมายที่จะตอบสนองความต้องการพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยแหล่งพลังงานปลอดคาร์บอน เช่น นิวเคลียร์และไฮโดรเจน โดยกลยุทธ์ด้านพลังงานแห่งชาติที่นำเสนอเมื่อเดือนพ.ค.เรียกร้องให้มีการสร้างเตาปฏิกรณ์ใหม่ 3 เครื่องที่มีกำลังการผลิต 1.4 กิกะวัตต์ต่อเครื่อง และเตาปฏิกรณ์โมดูลขนาดเล็ก 700 เมกะวัตต์ภายในปี 2581
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่บริษัท โคเรีย ไฮโดร แอนด์ นิวเคลียร์ พาวเวอร์ (Korea Hydro & Nuclear Power) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ของรัฐ ได้ยื่นขออนุมัติการก่อสร้างเป็นครั้งแรกในปี 2559 โดยโครงการดังกล่าวถูกยกเลิกไปในสมัยของอดีตประธานาธิบดีมูน แจ-อิน เนื่องจากเขาให้คำมั่นว่า จะยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในแหล่งพลังงานของประเทศ โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความกังวลด้านความปลอดภัย