กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่สำคัญต่อความมั่นคงของชาติฉบับปรับปรุงในวันนี้ (13 ก.ย.) ซึ่งรวมถึง เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ (Seven & i Holdings) บริษัทแม่ของร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven)
ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียวหลังจากที่เซเว่น แอนด์ ไอ ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่ากว่า 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์จากบริษัทค้าปลีก อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (Alimentation Couche-Tard) ของแคนาดา โดยมีรายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า คูช-ตาร์อาจพิจารณาเพิ่มราคาเสนอซื้อ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เซเว่น แอนด์ ไอ เป็นหนึ่งใน 88 บริษัทที่เพิ่งได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่สำคัญต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งโดยปกติแล้วรายชื่อนี้จะครอบคลุมบริษัทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น พลังงานนิวเคลียร์ อวกาศ และเซมิคอนดักเตอร์
หากบริษัทต่างชาติต้องการซื้อหุ้นในบริษัทที่ถูกจัดอยู่ในรายชื่อดังกล่าว พวกเขาจะต้องแจ้งให้รัฐบาลญี่ปุ่นทราบล่วงหน้าและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่าบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังยืนยันว่า การจัดประเภทครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อระดับการตรวจสอบจากรัฐบาล หรือกระบวนการพิจารณาข้อเสนอซื้อกิจการทั้งหมดของบริษัท
ทางด้านเซเว่น แอนด์ ไอ ชี้แจงว่า การที่บริษัทถูกจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจสำคัญ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อเสนอซื้อกิจการจากคูช-ตาร์ แต่อย่างใด
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเว่น แอนด์ ไอ ระบุว่า ข้อเสนอของคูช-ตาร์ ไม่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น และอาจเผชิญอุปสรรคจากกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในสหรัฐฯ เนื่องจากการควบรวมกิจการครั้งนี้จะทำให้บริษัทใหม่กลายเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในตลาดร้านสะดวกซื้อ