โบอิ้ง (Boeing) เตรียมระงับการจ้างงานและกำลังพิจารณาพักงานชั่วคราวเพื่อลดต้นทุน ขณะที่การหยุดงานประท้วงของพนักงานกว่า 30,000 คนดำเนินมาถึงวันที่ 4 เมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โบอิ้งและผู้นำสหภาพแรงงานประเมินความไม่พอใจของสมาชิกสหภาพแรงงานผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยสมาชิกฯ สนับสนุนให้หยุดงานประท้วงด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 96% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้การผลิตเครื่องบินรุ่น 737 ต้องหยุดชะงักในช่วงเวลาที่โบอิ้งกำลังพยายามเร่งการผลิต ทำให้ในตอนนี้บรรดาผู้บริหารจำเป็นต้องจัดการกับการหยุดงานด้วยข้อเสนอใหม่ เมื่อหารืออีกครั้งในวันนี้ (17 ก.ย.)
ไบรอัน เวสต์ ซีเอฟโอของโบอิ้ง แจ้งต่อพนักงานผ่านจดหมายว่า "การหยุดงานประท้วงครั้งนี้ส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวของเราอย่างมาก และเราจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการรักษาเงินสดและปกป้องอนาคตของเราไว้" โดยโบอิ้งจะยุติการออกใบสั่งซื้อชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่สำหรับโครงการเครื่องบินรุ่น 737, 767 และ 777 ที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดงาน และเสริมว่า "ผมทราบดีว่าการดำเนินการเหล่านี้จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนและความกังวลใจ"
เวสต์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ คือการรักษาอันดับเครดิตของโบอิ้งซึ่งอยู่เหนือระดับขยะเพียงหนึ่งขั้นเท่านั้น
การตัดสินใจยุติการสั่งซื้อชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบินทุกรุ่นของโบอิ้ง ยกเว้น 787 Dreamliner ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องบินที่กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูตัวเองจากจุดต่ำสุดหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ก่อนที่คนงานในโรงงานจะหยุดงานประท้วง บริษัทโบอิ้งก็ต้องรับมือกับวิกฤตด้านความปลอดภัยและการผลิตที่เกิดจากแผงประตูที่หลุดออกจากเครื่องบิน 737 MAX ลำใหม่กลางอากาศเมื่อเดือนม.ค. และบริษัทยังมีหนี้สินอยู่ถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์
เหตุการณ์นี้จึงนับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับโบอิ้ง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ที่กำลังประสบปัญหาในการเพิ่มการผลิตและกู้คืนชื่อเสียงของบริษัทหลังจากเผชิญกับวิกฤตด้านความปลอดภัย