บริษัททัพเพอร์แวร์ แบรนด์ (Tupperware Brands) และบางบริษัทในเครือฯ ได้ยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายภายใต้มาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐฯ (Chapter 11) เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญกับยอดขายภาชนะบรรจุอาหารที่เคยโด่งดังในอดีตที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาขาดทุนทางการเงินที่สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงโควิด-19 ระบาด ยอดขายทัพเพอร์แวร์ ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าของใช้ในบ้านโดยเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตกล่องพลาสติกเก็บรักษาอาหารมานานนับศตวรรษนั้น เพิ่มขึ้นในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากคนทำอาหารที่บ้านมากขึ้น
แต่หลังจากหมดโรคระบาด ทัพเพอร์แวร์ก็ต้องเผชิญกับปัญหาอีกครั้ง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบต่าง ๆ เช่น เม็ดพลาสติก รวมถึงต้นทุนค่าแรงและค่าขนส่ง ต่างก็พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรของทัพเพอร์แวร์ลดลงอย่างต่อเนื่อง
"ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สถานะทางการเงินของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ยากลำบาก" ลอรี โกลด์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระบุในแถลงการณ์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.) ว่า ทัพเพอร์แวร์กำลังวางแผนเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองจากศาลจากการล้มละลาย หลังจากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของการชำระหนี้ และได้ขอความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาทางกฎหมายและการเงิน
จากเอกสารที่ยื่นต่อศาลล้มละลายสหรัฐฯ ในรัฐเดลาแวร์ ทัพเพอร์แวร์ประเมินว่า บริษัทมีสินทรัพย์ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ - 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่หนี้สินอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ - 1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีจำนวนเจ้าหนี้อยู่ระหว่าง 50,001-100,000 ราย
ทัพเพอร์แวร์พยายามอย่างหนักเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจมาประมาณ 4 ปีแล้ว หลังจากที่ยอดขายตกลงต่อเนื่องถึง 6 ไตรมาสติด นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงสูงต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มลูกค้าหลักของทัพเพอร์แวร์ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ไม่กล้าซื้อสินค้ามากนัก
ในปี 2566 ทัพเพอร์แวร์ได้บรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และได้ลงนามให้ โมลิส แอนด์ โค (Moelis & Co) ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุน มาช่วยศึกษาทางเลือกเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ