กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ว่า ยอดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยต่างชาตินั้น เพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.339 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 8.211 ในเดือนมิ.ย. แม้ประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดอย่างญี่ปุ่นลดการถือครองลงก็ตาม
ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลงแตะระดับ 1.116 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 จากระดับ 1.118 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุด รองลงมาคือจีน โดยจีนถือครองพันธบัตรลดลงแตะระดับ 7.765 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. จากระดับ 7.802 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการถือครองพันธบัตรของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เนื่องจากญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยนเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีรายงานว่าทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อขายสกุลเงินดอลลาร์และซื้อเงินเยนในช่วงปลายเดือนเม.ย.และพ.ค. และเข้าแทรกแซงตลาดอีกครั้งในเดือนก.ค. ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเม็ดเงินบางส่วนที่นำไปใช้ในการแทรกแซงตลาดนั้นมาจากการขายพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ญี่ปุ่นถือครองอยู่ในพอร์ต
ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า ณ สิ้นเดือนก.ค. ทางการญี่ปุ่นได้ใช้จ่ายเงินทั้งสิ้น 5.53 ล้านล้านเยนในการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อพยุงเงินเยนที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 เดือน