นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ 0.50% ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยขาลงอย่างน้อยจนถึงปี 2569
ทั้งนี้ การผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดจะทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยหนุนสภาพคล่องในตลาด ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF
"สถิติบ่งชี้ว่า ไตรมาส 4 มักเป็นช่วงเวลาที่บิตคอยน์ปรับตัวได้ดี โดยราคาเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่าพุ่งขึ้นถึง 90.33%"
"โดยเฉพาะในปีนี้ เราเข้าสู่ไตรมาส 4 ด้วยราคาที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ จึงมีโอกาสสูงมากที่เราจะเห็นราคาพุ่งขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ จนทำให้บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่" นางอลิส หลิว หัวหน้านักวิเคราะห์จาก CoinMarketCap กล่าว
นอกจากนี้ นายรัสแลน เลียนคา หัวหน้านักวิเคราะห์จาก YouHodler กล่าวเช่นกันว่า บิตคอยน์มีแนวโน้มพุ่งทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะส่งสัญญาณให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง
ทั้งนี้ บิตคอยน์ทะยานแตะระดับ 73,844 ดอลลาร์ในวันที่ 15 มี.ค.2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสามารถทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ที่ 68,990 ดอลลาร์เมื่อเดือนพ.ย.2564