ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการใช้จ่ายด้านการคลัง รวมทั้งใช้มาตรการเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก และบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเร่งด่วนว่าจีนต้องการสกัดการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานการเปิดเผยของสำนักข่าวซินหัวในวันนี้ (26 ก.ย.) ว่า คณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 24 คน ได้ให้คำมั่นว่าจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปี โดยจีนจะพยายามหยุดยั้งการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นการให้คำมั่นสัญญาที่หนักแน่นมากที่สุดในการสกัดกั้นการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และพยายามสร้างเสถียรภาพของราคา
โปลิตบูโรยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนจะควบคุมการเพิ่มโครงการบ้านใหม่ และจะปรับปรุงโครงการที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะบรรเทาภาวะอุปทานที่อยู่อาศัยล้นตลาด อย่างไรก็ดี โปลิตบูโรไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงเกี่ยวกับขนาดของการใช้จ่ายด้านการคลัง โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดดังกล่าวในอีกไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
"เราจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างครอบคลุม มีเป้าหมาย และรอบคอบ ขณะเดียวกันก็จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เสริมสร้างความเชื่อมั่น และเพิ่มการตระหนักถึงความรับผิดชอบและความเร่งด่วนในการทำงานด้านเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น" โปลิตบูโรระบุในแถลงการณ์
นอกจากนี้ โปลิตบูโรยังเรียกร้องให้ทางการจีนบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ตามที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศไว้ในสัปดาห์นี้
ถ้อยแถลงดังกล่าวของโปลิตบูโร มีขึ้นเพียง 2 วันหลังจากพาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการ PBOC ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการประกาศว่าจะปรับลด RRR ลง 0.50% และจะออกมาตรการอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการลดเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านหลังที่สอง รวมถึงการจัดสรรเงินกู้ระยะยาวมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 1.4178 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)