อัตราความยากจนในอาร์เจนตินาพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่หลังวิกฤตการเงินปี 2544 ขณะที่ประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์ ผู้นำของอาร์เจนตินา เปิดตัวนโยบายเศรษฐกิจที่เรียกว่าปฏิบัติการช็อกเศรษฐกิจ (Shock Therapy) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างหนักให้กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง
รัฐบาลอาร์เจนตินาเผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดี (26 ก.ย.) ระบุว่า ชาวอาร์เจนตินาประมาณ 52.9% ตกอยู่ใต้เส้นความยากจนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 41.7% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 อันเป็นผลมาจากการมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งรัฐบาลเตือนว่าหากไม่มีมาตรการดังกล่าว เงินเฟ้ออาจพุ่งสูงขึ้นกว่านี้
"แน่นอนว่านี่คือตัวเลขที่จะสะท้อนถึงความเป็นจริงอันโหดร้ายที่สังคมอาร์เจนตินากำลังเผชิญ อันเป็นผลจากนโยบายประชานิยมที่ทำให้อาร์เจนตินาต้องประสบกับความอัปยศและความหายนะมานานหลายปี" มานูเอล อาดอร์นี โฆษกประธานาธิบดี กล่าวในระหว่างการแถลงต่อสื่อมวลชนวานนี้
โฆษกกล่าวต่อไปว่า มีหลักฐานมากมายที่บ่งชี้ถึงความยากลำบากที่ทวีความรุนแรงขึ้น ภาพของผู้คนที่ออกมาขอทานหน้าร้านขายของชำ คุ้ยหาอาหารในถังขยะ และกดกริ่งประตูเพื่อขอเสื้อผ้าที่ใช้แล้วกลายเป็นเรื่องปกติในกรุงบัวโนสไอเรส รัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณให้กับโครงการสนับสนุนเด็กและคูปองอาหาร ซึ่งทั้งสองโครงการเป็นโครงการความช่วยเหลือหลัก ๆ ของประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงถึงเกือบ 237% ส่งผลให้อัตราความยากจนของอาร์เจนตินาเพิ่มขึ้น โดยอัตราความยากจนนั้นคำนวณจากราคาของสินค้าที่จำเป็นในครัวเรือนและค่าแรงเฉลี่ย