เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 0.50% ในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีพัฒนาการที่เป็นไปตามคาด และเฟดจะ "ไม่รีบร้อน" ดำเนินการดังกล่าว หลังมีข้อมูลใหม่ซึ่งทำให้เฟดเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"หากเศรษฐกิจมีพัฒนาการที่เป็นไปตามคาด เราก็จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 0.50% ในปีนี้ โดยคณะกรรมการเฟดพิจารณาแล้วเห็นว่าเราไม่ควรเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย" พาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐฯ (NABE) เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.)
นอกจากนี้ พาวเวลกล่าวว่า การที่คณะกรรมการเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมครั้งล่าสุดนั้น ไม่ควรถูกตีความเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในอนาคต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การแสดงความเห็นของพาวเวลสะท้อนให้เห็นว่าเขามีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัว หลังจากทางการสหรัฐฯ ได้ทบทวนการประเมินเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้ โดยได้ปรับเพิ่มการประเมินรายได้ การใช้จ่าย และการออม รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์รายได้รวมภายในประเทศ (GDI) ที่ขยายตัวรวดเร็วมากกว่าคาด
"การที่รัฐบาลทบทวนตัวเลข GDI นั้น ได้ช่วยขจัดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญภาวะขาลง และบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง" พาวเวลกล่าว
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. ลดลงจากระดับ 37% ก่อนที่พาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ และลดลงจากระดับ 53% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.)