บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) คาดการณ์ว่า บรรดานักชอปในสหรัฐฯ จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเทศกาลช่วงสิ้นปี โดยคาดว่าการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,638 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 7% จากปี 2566 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้บริโภคสามารถปรับตัวรับสถานการณ์ได้ แม้ว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นเวลาหลายปีได้ส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อก็ตาม
อย่างไรก็ดี PwC ระบุว่า บริษัทต่าง ๆ ควรเตรียมตัวรับมือกับความอ่อนไหวด้านเงินเฟ้อ เนื่องจากผู้บริโภคประมาณ 85% วางแผนที่จะลดการใช้จ่าย โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายในหมวดที่ไม่จำเป็น เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน และการซื้อสินค้าแบรนด์หรู เป็นต้น
"สินค้าหลายแบรนด์กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อความภักดีต่อแบรนด์ (brand loyalty) ของลูกค้า ซึ่งทำให้ลูกค้าหันไปใช้สินค้าตราห้าง (private label) และแบรนด์ร้านค้าทั่วไป ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่าง ๆ จะต้องมุ่งเน้นไปที่การกำหนดราคาและการส่งเสริมการขายแบบมีกลยุทธ์ ปรับปรุงสินค้าของตน และลดต้นทุนเพื่อรับมือกับแนวโน้มดังกล่าว" PwC ระบุในรายงาน
บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐฯ หลายราย เช่น วอลมาร์ท (Walmart) และทาร์เก็ต (Target) รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในขณะที่เทศกาลช่วงสิ้นปีกำลังใกล้เข้ามา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัท คอสต์โค โฮลเซล (Costco Wholesale) คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ แต่ทางบริษัทก็ต้องเตรียมรับมือกับการที่ผู้บริโภคมองหาโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อมูลจาก PwC ยังระบุด้วยว่า ลูกค้าในกลุ่ม Gen Z ซึ่งมีอายุระหว่าง 12-27 ปี และกลุ่ม Millennial ซึ่งมีอายุมากกว่า จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตในปีนี้ ขณะที่กลุ่ม Gen X และ Baby Boomers วางแผนว่าจะใช้จ่ายน้อยลงกว่าปีที่แล้ว