"ไนกี้" ถอนคาดการณ์รายได้ทั้งปี ขณะ CFO แจง ยอดขาย Q1/68 ลด แม้อัดโปรฯเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 2, 2024 11:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไนกี้ (Nike) ประกาศถอนการคาดการณ์รายได้ทั้งปีในวันอังคาร (1 ต.ค.) พร้อมประกาศเลื่อนจัดงานนักลงทุนสัมพันธ์ในวันที่ 19 พ.ย.ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประกาศดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นไนกี้ดิ่งลง 6% ในการซื้อขายหลังปิดตลาด โดยก่อนหน้านี้ราคาหุ้นได้แกว่งตัวผันผวน เนื่องจากบริษัทฯ รายงานยอดขายไตรมาส 1/2568 (มิ.ย.-ส.ค. 2567) ที่น่าผิดหวัง แม้ทำกำไรได้ดีกว่าที่วอลล์สตรีทคาดไว้ก็ตาม

แมทธิว เฟรนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของไนกี้ชี้แจงในการประชุมทางโทรศัพท์หลังประกาศผลประกอบการว่า จำนวนคนเข้าร้านและเยี่ยมชมเว็บไซต์ของไนกี้ลดลงมากกว่าที่คาด ส่งผลให้สินค้าค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ จอห์น โดนาฮู ซีอีโอที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้

เฟรนด์ยังได้แจ้งให้ทราบเพิ่มเติมว่า ยอดขายของบริษัทฯ ลดลง แม้มีการจัดโปรโมชั่นเพิ่มขึ้นในร้านค้าของพาร์ตเนอร์ทั้งในส่วนของการค้าส่งและการค้าปลีก

อนึ่ง การเติบโตของบริษัทฯ ได้ชะลอตัวลงในระยะหลัง เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทคู่แข่งที่มีความคล่องตัวและทันสมัยกว่า อาทิ บริษัทออน (On) และแบรนด์รองเท้าโฮกา (Hoka) ของบริษัทเด็กเกอร์ส (Deckers) ด้วยเหตุนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ไนกี้จึงประกาศดึงตัว เอลเลียต ฮิลล์ บุคลากรเก่าแก่ของบริษัทฯ กลับมากอบกู้สถานการณ์ โดยจะขึ้นเป็นซีอีโอแทนโดนาฮู

นับแต่ต้นปี 2567 ราคาหุ้นไนกี้ร่วงลงไปแล้ว 18% แต่ฟื้นตัวขึ้นมา 10% นับจากวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งเป็นวันที่บริษัทฯ ประกาศแต่งตั้งฮิลล์

เฟรนด์กล่าวว่า การถอนการคาดการณ์จะช่วยให้ฮิลล์มีอิสระในการประเมินกลยุทธ์และแนวโน้มธุรกิจของไนกี้ รวมถึง "วางแผนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจสำหรับปีงบการเงิน 2569 เป็นต้นไป" ก่อนหน้านี้ ไนกี้เคยคาดการณ์ว่ารายได้ประจำปีจะลดลงในระดับช่วงกลางของเลขหลักเดียว (ประมาณ 4-6%)

แทนที่จะให้การคาดการณ์ทั้งปี บริษัทฯ ได้นำเสนอมุมมองสำหรับไตรมาส 2/2568 (ก.ย.-พ.ย. 2567) โดยคาดว่า ยอดขายจะลดลง 8-10% ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 7% ตามข้อมูลของ LSEG นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะหดตัวราว 1.50% ในช่วงเวลาดังกล่าว

"เราคาดว่าการกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เราเชื่อว่าเรามีองค์ประกอบที่เหมาะสมครบถ้วน โดยเฉพาะตอนนี้ที่มีเอลเลียตมานำทัพ" เฟรนด์กล่าว

ฮิลล์จะมีภารกิจฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์ค้าส่งของไนกี้ ซึ่งได้ลดน้อยถอยลงในยุคของโดนาฮูที่หันไปมุ่งเน้นการขายผ่านร้านและเว็บไซต์ของบริษัทฯ เอง โดยกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ อย่างฟุตล็อกเกอร์ (Foot Locker) และดิกส์สปอร์ตติ้งกูดส์ (Dick's Sporting Goods) เร่งเติมเต็มพื้นที่ชั้นวางสินค้าของไนกี้ที่ว่างลงด้วยแบรนด์คู่แข่งที่กำลังมาแรง

เฟรนด์เล่าว่า ฮิลล์เคยเป็นผู้จัดการทั่วไปของไนกี้ในอเมริกาเหนือช่วงปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่ยากลำบาก แต่บริษัทฯ ก็กลับมาเติบโตได้ด้วยการ "ปรับโฉมตลาดให้มุ่งเน้นกีฬา" โดยเขามองว่า ตอนนี้บริษัทฯ จำเป็นต้องใช้แนวทางในลักษณะเดียวกันนี้

"เมื่อเราพูดว่า 'เราต้องโฟกัสที่กีฬาให้มากขึ้น' ไม่ได้หมายความว่าเราต้องขายอุปกรณ์กีฬาประสิทธิภาพสูงให้มากขึ้นเท่านั้น แต่หมายถึงเราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับลูกค้าผ่านกีฬา" เฟรนด์กล่าว

ทั้งนี้ รายได้สุทธิโดยรวมของไนกี้ในไตรมาสแรกลดลง 10.4% สู่ระดับ 1.159 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 10%

นักวิเคราะห์มองว่า บริษัทฯ ยังไม่ได้รับประโยชน์จากความพยายามในการเร่งสร้างนวัตกรรมและฟื้นฟูความต้องการของตลาดผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ Air Max Dn และ Pegasus 41

เดฟ วากเนอร์ หัวหน้าฝ่ายหุ้นของแอปตัส แคปิตอล แอดไวเซอร์ส (Aptus Capital Advisors) ซึ่งถือหุ้นไนกี้อยู่ กล่าวว่า "ผมค่อนข้างผิดหวังกับตัวเลขรายได้ครั้งนี้ นี่ไม่ใช่รายงานที่ดีเลย... ทั้งในแง่ของข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยเฉพาะการยกเลิกวันนักลงทุนสัมพันธ์"


แท็ก ไนกี้  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ