คนงานท่าเรือและผู้ประกอบการท่าเรือสหรัฐฯ เปิดเผยแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่จะยุติการหยุดงานประท้วงที่ดำเนินมานาน 3 วัน ซึ่งทำให้การขนส่งหยุดชะงักที่ท่าเรือชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ข้อตกลงเบื้องต้นดังกล่าวเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างราว 62% ภายในระยะเวลา 6 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าจ้างเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 63 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงจาก 39 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงตลอดอายุสัญญาจ้างงาน
ทั้งนี้ สมาคมแรงงานท่าเรือนานาชาติ (ILA) ซึ่งเป็นตัวแทนของคนงานท่าเรือกว่า 45,000 ราย ได้พยายามขอขึ้นค่าจ้าง 77% ขณะที่ก่อนหน้านี้ พันธมิตรสายการเดินเรือสหรัฐอเมริกา (USMX) ซึ่งเป็นตัวแทนของนายจ้าง ได้ยื่นข้อเสนอขึ้นค่าจ้างที่เกือบ 50%
การบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นจะยุติการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี ซึ่งขัดขวางการขนถ่ายสินค้าจากเรือบรรทุกตั้งแต่รัฐเมนถึงรัฐเท็กซัส และอาจทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าทุกประเภทตั้งแต่กล้วยไปจนถึงชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งผลให้มีเรือที่จอดทอดสมอนอกท่าเรือหลัก ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก
สหภาพแรงงานและผู้ประกอบการท่าเรือระบุในแถลงการณ์ว่า พวกเขาจะขยายอายุสัญญาหลักของพวกเขาไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2568 เพื่อให้มีเวลามากขึ้นในการเจรจาปัญหาที่ยังคงค้างคาอยู่ทั้งหมด
ด้านคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ นั้นได้เข้าข้างสหภาพแรงงาน โดยกดดันให้ผู้จ้างงานท่าเรือปรับข้อเสนอเพิ่มเพื่อให้บรรลุข้อตกลง โดยอ้างถึงผลกำไรมหาศาลของอุตสาหกรรมการเดินเรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19