ราคาหุ้นบริษัทขนส่งทางเรือทั่วเอเชียร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้าวันนี้ (4 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า คนงานท่าเรือที่ชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงกับผู้ประกอบการในการยุติการผละงานประท้วง ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าวได้สะกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าอัตราค่าระวางเรือจะพุ่งขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์ประท้วงจะส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าปรับตัวลดลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นคาวาซากิ คิเซ็น ไคชา (Kawasaki Kisen Kaisha) ร่วงลงอย่างหนักถึง 13% และหุ้นมิตซุย โอเอสเค ไลน์ (Mitsui OSK Lines) ร่วงลงกว่า 9% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นโตเกียว
ส่วนหุ้นแพน โอเชียน (Pan Ocean) ร่วงลง 5.5% และหุ้นโคเรีย ไลน์ คอร์ป (Korea Line Corp) ปรับตัวลงเช่นกันในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขณะที่หุ้นคอสโก้ ชิปปิ้ง โฮลดิ้งส์ (Cosco Shipping Holdings) ดิ่งลงกว่า 12% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกง
สำหรับในตลาดหุ้นไทยนั้น หุ้นบมจ. อาร์ ซี แอล (RCL) เปิดตลาดปรับตัวลง 2.43% ในการซื้อขายวันนี้
ทัตสึโยชิ โฮริ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์มิโตะในโตเกียว กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าตลาดการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จะปรับตัวขึ้นเนื่องจากการประท้วงที่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้การประท้วงได้ยุติลง ซึ่งหมายความว่าความหวังดังกล่าวถูกดับลงด้วย และทำให้นักลงทุนระยะสั้นพากันเทขายหุ้นกลุ่มชิปปิง"
ทั้งนี้ คนงานท่าเรือและผู้ประกอบการท่าเรือสหรัฐฯ เปิดเผยแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่จะยุติการหยุดงานประท้วงที่ดำเนินมานาน 3 วัน ซึ่งทำให้การขนส่งหยุดชะงักที่ท่าเรือชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า ข้อตกลงเบื้องต้นดังกล่าวเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างราว 62% ภายในระยะเวลา 6 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าจ้างเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 63 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงจาก 39 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงตลอดอายุสัญญาจ้างงาน
การบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นจะยุติการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี ซึ่งขัดขวางการขนถ่ายสินค้าจากเรือบรรทุกตั้งแต่รัฐเมนถึงรัฐเท็กซัส และอาจทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าทุกประเภทตั้งแต่กล้วยไปจนถึงชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งผลให้มีเรือที่จอดทอดสมอนอกท่าเรือหลัก ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก