กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกาซา ดิ่งลงเกือบ 86% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากการโจมตีของอิสราเอลได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จูลี โคแซก โฆษกของ IMF เปิดเผยรายงานดังกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) พร้อมเผยด้วยว่า GDP ของเขตเวสต์แบงก์ในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวลง 25% และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอีก
ขณะที่เศรษฐกิจของอิสราเอล ซึ่งหดตัวลงประมาณ 20% ในไตรมาสสี่ของปีที่แล้ว แม้จะฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้วในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนปีนี้ แต่ก็เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น
"ความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการยกระดับความขัดแย้ง ทำให้ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น และอาจส่งผลลุกลามทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญต่อภูมิภาคนี้ รวมไปถึงภูมิภาคอื่น ๆ" โฆษกหญิงของ IMF กล่าว
ความยากจนส่งผลกระทบต่อประชากรเกือบทั้งหมดของกาซา และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเขตเวสต์แบงก์ โดยในช่วงต้นปี 2567 สถานประกอบการภาคเอกชนเกือบ 82% ในฉนวนกาซาได้รับความเสียหาย หรือไม่ก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น
โคแซกกล่าวด้วยว่า IMF กำลังติดตามสถานการณ์ทางตอนใต้ของเลบานอนตอนด้วยความกังวลอย่างยิ่ง หลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (1 ต.ค.) อิสราเอลได้เปิดฉากรุกรานภาคพื้นดินในเลบานอนเพื่อโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
"สำหรับเลบานอนนั้น ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคและสังคมที่เปราะบางอยู่แล้วของประเทศเลวร้ายลงอีก" เธอกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ความขัดแย้งดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ คาดว่า IMF จะปรับปรุงการคาดการณ์เศรษฐกิจในเดือนนี้ หลังจากการประชุมร่วมกับธนาคารโลก