กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับเจตจำนงทางการเมือง และแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าผ่านทางการเจรจา
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ EC เปิดเผยในวันนี้ว่า EC ได้รับเสียงสนับสนุนที่เพียงพอจากสมาชิก EU ในการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีการนำเข้าจากจีน
"จีนขอคัดค้านคำตัดสินของทาง EU และหวังว่า EU จะมีเจตจำนงทางการเมืองในการแก้ไขความขัดแย้งผ่านทางการเจรจา"
"การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา แต่จะทำลายความเชื่อมั่นของบริษัทจีน และเป็นอุปสรรคขัดขวางการเข้าลงทุนในยุโรป" โฆษกกระทรวงฯ ระบุ และเสริมว่า เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายจะยังคงทำการเจรจาต่อไปในวันที่ 7 ต.ค.
แหล่งข่าวระบุว่า สมาชิก EU จำนวน 10 ชาติลงมติสนับสนุนการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการนำเข้าจากจีน ขณะที่ 5 ชาติคัดค้าน และ 12 ชาติงดออกเสียง
ทั้งนี้ EC ประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 7.8% ต่อรถยนต์ของบริษัทเทสลา และมากสุด 35.3% ต่อบริษัท SAIC และบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนของ EC โดยอัตราภาษีดังกล่าวยังไม่รวมอัตราภาษีมาตรฐาน 10% ที่ EC เรียกเก็บจากรถยนต์นำเข้าจากจีน ส่งผลให้เมื่อรวมอัตราภาษีเพิ่มเติมและอัตราภาษีมาตรฐานแล้ว จะทำให้รถยนต์ของจีน เช่น SAIC ถูกเรียกเก็บภาษีสูงสุดถึง 45%
อย่างไรก็ดี EC ยังคงเปิดช่องทางเจรจากับจีนเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ โดยเฉพาะประเด็นการกำหนดราคานำเข้าขั้นต่ำสำหรับรถยนต์จากจีน และการกำหนดปริมาณการนำเข้ารถยนต์ ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลง ก็อาจส่งผลให้ EC ทำการพิจารณาทบทวนการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ EC ระบุว่ารถยนต์ดังกล่าวได้รับประโยชน์อย่างมากจากการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีน และถือเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจต่อผู้ผลิตรถยนต์ EV ในยุโรป