ริโอทินโต (Rio Tinto) ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับสองของโลก และอาร์คาเดียม ลิเทียม (Arcadium Lithium) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่ลิเทียมของสหรัฐฯ ยืนยันในวันนี้ (7 ต.ค.) ว่า ริโอทินโตแสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการบริษัทอาร์คาเดียม
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางด้านการเงิน ขณะที่ริโอทินโตระบุว่ายังไม่แน่นอนว่าจะมีการทำข้อตกลงซื้อกิจการหรือไม่
ข้อมูลจากแอลเอสอีจีระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดของอาร์คาเดียมอยู่ที่ 3.31 พันล้านดอลลาร์ โดยหุ้นอาร์คาเดียมที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นออสเตรเลียพุ่งขึ้นกว่า 42% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ หากมีการบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ ริโอทินโตจะกลายเป็นหนึ่งในผู้จัดหาแร่ลิเทียมรายใหญ่ที่สุด เป็นรองแค่อัลเบอมาร์ล (Albemarle) และเอสคิวเอ็ม (SQM) เท่านั้น นอกจากนี้ ริโอทินโตจะได้รับสิทธิ์ในเหมืองลิเทียมและโรงงานแปรรูปแร่ลิเทียมใน 4 ทวีป โดยความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทเหมืองแร่หลายแห่งพยายามหาแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก
ที่ผ่านมานั้น ราคาลิเทียมได้รับแรงกดดันเนื่องจากการผลิตเกินความต้องการของจีน โดยข้อมูลจากแฟกต์เซ็ตระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาลิเทียมคาร์บอเนต 99.2% ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐาน ปรับตัวลงกว่า 20% แตะที่ระดับ 10,800 ดอลลาร์/ตัน
ซาอูล คาโวนิก หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านพลังงานของบริษัทเอ็มเอสที มาร์คี เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ริโอทินโตรอให้ราคาลิเทียมชะลอตัวลงเพื่อจะเข้าทำธุรกรรมควบรวมกิจการและซื้อกิจการ เพื่อให้บริษัทสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้จัดหาแร่ลิเทียมรายใหญ่ระดับโลก
"อาร์คาเดียมน่าจะอยู่ในเป้าหมายของริโอทินโตมาหลายปีแล้ว แต่ราคาและมูลค่าของลิเทียมอยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานาน" เขากล่าว
นอกเหนือจากราคาหุ้นอาร์คาเดียมแล้ว หุ้นบริษัทเหมืองลิเทียมรายอื่น ๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นออสเตรเลียพุ่งขึ้นด้วย โดยหุ้นไลออนทาวน์ รีซอร์สเซส (Liontown Resources) ทะยานขึ้น 12.84% หุ้นมิเนอรัล รีซอร์สเซส (Mineral Resources) พุ่งขึ้น 4.94%