ธนาคารกลางโลกคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะอ่อนแอลงอีกในปี 2568 แม้รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชั่วคราวเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม ซึ่งความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้เศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียชะลอตัวลงอย่างมาก
ธนาคารโลกระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรอบครึ่งปีในวันนี้ (8 ต.ค.) ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอลงแตะระดับ 4.3% ในปี 2568 จากระดับของปี 2567 ที่คาดว่าจะขยายตัว 4.8% ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ด้วยนั้น ชะลอตัวลงแตะระดับ 4.4% ในปี 2568 จากระดับ 4.8% ในปีนี้
"เป็นเวลานานถึง 30 ปีที่การเติบโตของเศรษฐกิจจีนได้เอื้อประโยชน์ต่อบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน แต่ขนาดของแรงขับเคลื่อนดังกล่าวกำลังลดน้อยลงในขณะนี้" ธนาคารโลกระบุ และเสริมว่า "นโยบายด้านการคลังของจีนที่เพิ่งส่งสัญญาณเมื่อไม่นานมานี้อาจจะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในระยะยาวนั้น การเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะขึ้นอยู่กับการปฏิรูปโครงสร้างในระดับที่ลึกขึ้น"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการจีนได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้เอาไว้ที่ประมาณ 5% แต่การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวดูเหมือนจะห่างไกลมากขึ้นเมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจภายในช่วงเดือนส.ค. เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคซบเซาลงและตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงทรุดตัว กระทั่งในช่วงปลายเดือนก.ย. รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรายการซึ่งส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่นโยบายการเงิน โดยมาตรการเหล่านี้รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
รายงานของธนาคารโลกยังระบุด้วยว่า นอกเหนือจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงแล้ว เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกอาจจะได้รับผลกระทบจากการไหลออกของเม็ดเงินด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งความไม่แน่นอนของนโยบายทั่วโลก