ปอร์เช่ (Porsche) บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยว่า ยอดขายในจีนลดลง 29% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่างบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และเมอร์เซเดส (Mercedes) ซึ่งต่างก็มียอดขายในจีนลดลงเช่นกัน
ภาวะซบเซาในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ประกอบกับการปรับโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ ส่งผลให้ยอดขายทั่วโลกของปอร์เช่ลดลง 7% มาอยู่ที่ 226,026 คันในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.
สำหรับรุ่นที่มียอดขายร่วงลงมาก ได้แก่ รถยนต์สปอร์ตเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ พานาเมร่า (Panamera) ที่มียอดขายลดลง 20% และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่รุ่น ไทคานน์ (Taycan) ที่มียอดขายทรุดลงถึง 50% โดยเฉพาะในประเทศจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้บริโภคชาวจีนลังเลมากขึ้นที่จะใช้จ่ายเงินกับสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะงักงันซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ
การเปิดเผยยอดขายของปอร์เช่ในวันนี้มีขึ้นหลังจากที่แบรนด์รถหรูสัญชาติเยอรมันอีกสองรายเพิ่งเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดขายไตรมาส 3/2567 ทรุดหนัก เหตุตลาดจีนซบเซาและการแข่งขันที่ดุเดือด
รายงานระบุว่า ยอดขายช่วงก.ค.-ก.ย. ของบีเอ็มดับเบิลยูดิ่งลง 13% โดยยอดขายในจีนทรุดฮวบฮาบถึง 1 ใน 3 นอกจากนี้ เมอร์เซเดสยังเผยด้วยว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ทั่วโลกซบเซา ส่งผลให้ยอดขาย BEV ของบริษัทหายไปถึง 31%
ขณะที่ยอดขายช่วงเดียวกันของเมอร์เซเดสหดตัว 3% โดยเฉพาะยอดขายในจีนที่ร่วงลงไป 13% อย่างไรก็ดี บีเอ็มดับเบิลยูกลับมียอดขาย BEV เพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาสที่ผ่านมา