นักวิเคราะห์ในการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนน่าจะโตเพียง 4.8% ในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ประมาณ 5% และอาจชะลอตัวลงเหลือ 4.5% ในปี 2568 สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลจีนต้องพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ข้อมูลจากการสำรวจดังกล่าวพบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 3 ของจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจาก 4.7% ในไตรมาสที่ 2 และเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2566
ทางการจีนได้เร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มข้นมาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาและหวังให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่รัฐบาลจีนตั้งไว้ราว 5% ในปีนี้ โดยนักวิเคราะห์มองว่า แรงกดดันหลัก ๆ มาจากการบริโภค ซึ่งเชื่อมโยงกับภาวะเงินฝืด
รายงานข่าวระบุว่า จีนแทบไม่เคยพลาดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยครั้งล่าสุดที่พลาดคือในปี 2565 เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจโตเพียง 3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 5.5% อย่างมาก
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนมีกำหนดเปิดเผยข้อมูล GDP ไตรมาส 3 พร้อมตัวเลขยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนประจำเดือนกันยายน ในวันที่ 18 ต.ค.นี้