ผู้ถือหุ้นของสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (AirAsia X) ลงมติเห็นชอบข้อเสนอซื้อหุ้นในกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย (AirAsia) ของแคปปิตอล เอ (Capital A) เป็นวงเงิน 6.8 พันล้านริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากผู้ถือหุ้นของแคปปิตอล เอ มีมติเห็นชอบขายธุรกิจแอร์เอเชียให้กับแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ต.ค.)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การควบรวมกิจการของสายการบินทั้งสองแห่งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ โดยยังคงต้องผ่านการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากศาลและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
ผู้บริหารของแอร์เอเชียเปิดเผยว่า การควบรวมกิจการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และขยายเครือข่ายเส้นทางบินทั่วโลก โดยแอร์เอเชียให้บริการเที่ยวบินระยะสั้นทั่วเอเชียด้วยเครื่องบินลำตัวแคบ ขณะที่แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ให้บริการเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลด้วยเครื่องบินลำตัวกว้าง
ทั้งนี้ แคปปิตอล เอ และแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการจำกัดการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถูกตลาดหลักทรัพย์มาเลเซียจัดให้อยู่ในกลุ่ม PN17 หรือบริษัทที่ประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์หากไม่สามารถฟื้นฟูสถานะทางการเงินได้ทันเวลา อย่างไรก็ดี แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้พ้นจากสถานะดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว
สำหรับแคปปิตอล เอนั้น โทนี เฟอร์นันเดส ผู้เป็นซีอีโอ เปิดเผยว่า การขายธุรกิจแอร์เอเชีย ซึ่งรวมถึงหน่วยธุรกิจของแอร์เอเชียในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา จะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้แคปปิตอล เอ สามารถปรับโครงสร้างและหลุดพ้นจากสถานะ PN17 ได้ในที่สุด