การส่งออกนาฬิกาสวิสลดลงอย่างมากในเดือนกันยายน เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกลดการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างนาฬิการาคาแพง โดยเฉพาะในประเทศจีนที่ยอดการส่งออกลดลงถึงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ภาคธุรกิจสินค้าหรูหราในยุโรปที่ถูกกดดันอยู่แล้วต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น
การส่งออกนาฬิกาและเครื่องนาฬิกาสวิสลดลง 12.4% แตะที่ 1.9 พันล้านฟรังก์สวิส (2.2 พันล้านดอลลาร์) นำโดยยอดส่งออกไปจีนที่ร่วงลงถึง 50% ตามข้อมูลของสหพันธ์อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส
สำหรับในช่วง 9 เดือนแรก ยอดส่งออกโดยรวมลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตัวเลขดังกล่าวเผยให้เห็นสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ท้าทายสำหรับผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิส เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกลดการซื้อนาฬิการาคาแพง จากเดิมที่เคยเฟื่องฟูขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่งในยุคหลังโควิดระบาด
สหพันธ์ฯ ระบุว่า การส่งออกที่ร่วงลงดังกล่าวมีสาเหตุมาจากยอดขายที่อ่อนแอในเอเชีย โดยจีนและฮ่องกงคิดเป็นสองในสามของยอดการส่งออกที่ลดลง
ฌอง-ฟิลิปป์ เบอร์ซี หัวหน้าฝ่ายวิจัยหุ้นสวิส บริษัทจัดการการลงทุน วอนโตเบล (Vontobel) กล่าวว่า แบรนด์ใหญ่อย่างโรเล็กซ์ (Rolex) และปาเต็ก ฟิลิปป์ (Patek Philippe) ยังคงเติบโตในด้านยอดขาย "หากเราไม่รวมแบรนด์เหล่านี้ การส่งออกนาฬิกาสวิสที่ลดลงจะยิ่งเห็นได้ชัดมากขึ้น"
สหพันธ์ฯ และกลุ่มที่เป็นตัวแทนของช่างทำนาฬิกาได้ออกมาเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่า ความต้องการนาฬิกาหรูลดลงอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อแบรนด์นาฬิกาสวิส และทำให้ตำแหน่งงานตกอยู่ในความเสี่ยง พร้อมเรียกร้องให้ธนาคารกลางสวิสดำเนินมาตรการเพื่อทำให้เงินฟรังก์อ่อนค่าลง