กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกโรงเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากหนี้สาธารณะ พร้อมเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายดำเนินการปรับการคลังตั้งแต่ตอนนี้ อย่ามัวแต่ผัดผ่อน
"งบประมาณขาดดุลสูงและหนี้สาธารณะทั่วโลกสูงมาก สูงขึ้นเรื่อย ๆ และมีความเสี่ยง คาดว่าหนี้สาธารณะทั่วโลกจะสูงกว่า 100 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้" วิตอร์ กัสปาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการการคลังของ IMF กล่าวในการแถลงข่าวระหว่างการประชุมประจำปีของกลุ่มธนาคารโลกและ IMF ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันพุธ (23 ต.ค.)
กัสปาร์กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากจังหวะการเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน คาดว่าอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ทั่วโลกจะเข้าใกล้ 100% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ โดยขึ้นไปอยู่เหนือช่วงพีคของโควิด
เจ้าหน้าที่ IMF ยังระบุด้วยว่า ในประเทศต่าง ๆ ถึงราวหนึ่งในสาม หนี้สาธารณะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าช่วงก่อนโควิด "ไม่เพียงประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอย่างจีนและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น บราซิล ฝรั่งเศส อิตาลี แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรวมกันประมาณ 70% ของ GDP ทั่วโลก" เขากล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในกรณีของจีนนั้น กัสปาร์กล่าวว่า จีนมีวิธีการต่าง ๆ เหลือเฟือในการดำเนินนโยบายเพื่อควบคุมหนี้หนี้สาธารณะในประเทศ
กัสปาร์ยังกล่าวด้วยว่า แผนการคลังที่รัฐบาลประเทศต่าง ๆ วางไว้นั้นไม่เพียงพอที่จะรักษาอัตราส่วนหนี้สาธารณะให้คงที่หรือลดลงได้อย่างมั่นใจ
"จำเป็นต้องใช้ความพยายามเพิ่มเติม การเลื่อนปรับแผนการคลังออกไปนั้นมีราคาและความเสี่ยง การถ่วงเวลาจะไม่เป็นผลดี ถึงเวลาต้องดำเนินการแล้ว" เจ้าหน้าที่ IMF กล่าว