ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั้งในปี 2567 และ 2568 จะขยายตัวใกล้ระดับบนสุดของกรอบตัวเลขคาดการณ์ 2%-3%
ในรายงานทบทวนแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (28 ต.ค.) MAS ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสิงคโปร์ "แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน" ในไตรมาส 3/2567 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต รวมทั้งการซื้อขายที่ปรับตัวดีขึ้นในภาคการผลิต และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนหลังจากที่นโยบายการยกเว้นวีซ่าเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนก.พ.
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า GDP ของสิงคโปร์ขยายตัว 4.1% ในไตรมาส 3/2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ขยายตัว 2.7% ในไตรมาส 2/2567
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อย่างไรก็ตาม MAS มีความกังวลว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสิงคโปร์มีความเสี่ยงที่จะอ่อนแอลงในปี 2568 เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก
"ผลการเลือกตั้งประธานาธิบสหรัฐฯ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างมากนั้น อาจจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก และท้ายที่จะสุดก็จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสิงคโปร์ด้วย" MAS ระบุ
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า MAS ได้คงตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสิงคโปร์เอาไว้ที่ประมาณ 2% ณ สิ้นปี 2567 แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2.8% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 2.5% ในเดือนก.ค. ส่วนในปี 2568 นั้น MAS คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ราว 1.5%-2.5%