กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (28 ต.ค.) พบว่า แรงงานญี่ปุ่นได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนเฉลี่ย 2,524 เยน (ประมาณ 580 บาท) หรือ 4.1% จากปี 2566 สู่ระดับ 11,961 เยนในปีนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นครั้งแรกที่เงินเดือนเฉลี่ยสูงกว่า 10,000 เยน ท่ามกลางราคาสินค้าและบริการที่ปรับตัวสูงขึ้น
กระทรวงระบุว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้บริหารภาคธุรกิจและสหภาพแรงงานได้ตกลงกันในระหว่างการเจรจาเรื่องค่าจ้างช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ นอกจากนี้ ค่าจ้างขั้นต่ำที่สูงขึ้นยังเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นค่าจ้างโดยรวมด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทั้งมูลค่าและอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างสูงกว่าปีก่อนหน้าเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีข้อมูลเปรียบเทียบในปี 2542 โดยผลสำรวจบ่งชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มการปรับขึ้นค่าจ้างได้รับความสนใจมากขึ้นในญี่ปุ่น จากแต่ก่อนที่บริษัทต่าง ๆ มักลังเลที่จะปรับขึ้นค่าจ้าง เนื่องจากประเทศเผชิญภาวะเงินฝืดมาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม ค่าจ้างที่แท้จริงของญี่ปุ่นลดลงเป็นเดือนที่ 26 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. แม้ว่าจะดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. และก.ค. แต่ตัวเลขกลับลดลงอีกครั้งในเดือนส.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าค่าจ้างยังปรับขึ้นไม่ทันกับราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจยังเผยด้วยว่า บริษัท 35.2% ให้เหตุผลที่ขึ้นค่าจ้างว่าเป็นเพราะบริษัทมีผลกำไรดีขึ้น รองลงมา 14.3% ระบุถึงความจำเป็นในการรักษาและดึงดูดพนักงาน
การสำรวจล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ดำเนินการในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. และได้รับคำตอบจากบริษัท 1,783 แห่งซึ่งมีพนักงานมากกว่า 100 คน