รายงานของรัฐบาลญี่ปุ่นที่เผยแพร่ในวันนี้ (29 ต.ค.) ระบุว่า การฆ่าตัวตายในหมู่นักเรียนชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลายในญี่ปุ่น ยังคงอยู่ที่ระดับสูงอย่างน่าวิตกในปี 2566
รายงานสมุดปกขาวว่าด้วยการป้องกันการฆ่าตัวตายประจำปี 2567 ของญี่ปุ่น ระบุว่า จำนวนนักเรียนระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนปลายที่ฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นอยู่ที่ 513 คนในปี 2566 ใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดที่ 514 คนซึ่งบันทึกไว้ในปี 2565
รายงานระบุว่า เด็กนักเรียนที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประกอบด้วยนักเรียนมัธยมปลาย 347 คน นักเรียนมัธยมต้น 153 คน และนักเรียนประถม 13 คน
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า สาเหตุหลักของการฆ่าตัวตายของนักเรียนประถมคือการถูกลงโทษและดุด่าจากครอบครัว ขณะที่เด็กชายชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายมีสาเหตุมาจากปัญหาที่โรงเรียน เช่น ความกดดันในการเรียนและความกังวลเรื่องอาชีพ ส่วนเด็กหญิงชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายมีสาเหตุมาจากการทะเลาะกับเพื่อนและปัญหาความสัมพันธ์อื่น ๆ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การฆ่าตัวตายทั้งหมดในญี่ปุ่นอยู่ที่ 21,837 คนในปี 2566 ลดลง 44 คนจากปีก่อนหน้า และคิดเป็นอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ 17.6 ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งทรงตัวที่ระดับเดิม
นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา อัตราการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในเกือบทุกกลุ่มอายุ และพบอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดในกลุ่มคนว่างงาน แต่กลุ่มคนทำงานก็พบว่ามีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นเช่นกัน