รี ชาง-ยอง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) กล่าวว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้อาจขยายตัวเพียง 2.2% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.4%
ธนาคารกลางมีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ BOK รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3/2567 เติบโตเพียง 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกที่อ่อนแอลง และต่ำกว่าที่บลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 0.4% ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ BOK พิจารณาปรับลดเป้าหมายการเติบโตประจำปี
สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ได้แก่ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และความสำเร็จของจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
ความกังวลที่ว่า อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน อาจชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ในขณะที่เงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลง โดยผู้ว่าการ BOK กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คณะกรรมการนโยบายของธนาคารกำลังติดตามสถานการณ์ค่าเงินอย่างใกล้ชิด และระบุว่า ธนาคารกลางมี "กระสุน" เพียงพอ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าแบงก์ชาติอาจแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราหากจำเป็น
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ยังได้กล่าวถึงเงินวอนที่อ่อนค่าลงเช่นกัน โดยกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ห่วงโซ่อุปทาน หรือราคาน้ำมันส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจ