เมอส์ก (Maersk) บริษัทเดินเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก รายงานผลกำไรสุทธิพุ่งสูงขึ้นในไตรมาสที่ 3/2567 เนื่องจากการยกเลิกเดินเรือผ่านเส้นทางทะเลแดงส่งผลให้ค่าขนส่งสินค้าแพงขึ้น ประกอบกับความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกของจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมอส์กระบุในแถลงการณ์วันนี้ (31 ต.ค.) ว่า กำไรสุทธิในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.05 พันล้านดอลลาร์ จาก 521 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัทระบุว่า การขนส่งทางเรือยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 และคาดว่าความต้องการขนส่งสินค้าขยายตัวขึ้น 4-6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีการส่งออกจากจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครองสัดส่วนการเติบโตดังกล่าวมากที่สุด
เมอส์ก ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งทางทะเลรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และถูกมองว่าเป็นมาตรวัดการค้าโลก ระบุด้วยว่า เศรษฐกิจจีนยังคงโดดเด่นในแง่ของการผลิตที่ล้นตลาดและการพึ่งพาการเติบโตจากการส่งออก ขณะที่ความต้องการในประเทศและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ประกอบกับดีมานด์การขนส่งสินค้าที่ยังคงเติบโต รวมถึงสถานการณ์ที่ยังคงดำเนินอยู่ในทะเลแดง เมอส์กจึงได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2567 โดยคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ตลอดปีนี้ จะอยูในช่วง 5.2-5.7 พันล้านดอลลาร์ จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 3.0-5.0 พันล้านดอลลาร์