โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ระบุว่า แม้ว่าการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นจะขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจจีน แต่ก็จะเป็นแรงผลักดันให้จีนหันไปให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยการอุปโภคบริโภค
ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ซึ่งนำโดยซินฉวน เฉิน ระบุในรายงานวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า ในกรณีที่มีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น รัฐบาลจีนจะถูกผลักดันให้เพิ่มการสนับสนุนด้านการคลังเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ระบุว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น ได้ถูกกำหนดให้เปลี่ยนไปสร้างการเติบโตภายในประเทศในปีหน้า
"หากสินค้าจีนถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นในปีหน้า ก็จะยิ่งเร่งให้จีนหันไปให้ความสำคัญกับการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ" ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างมองว่าเจ้าหน้าที่จีนจะหันไปให้ความสำคัญกับการบริโภคมากขึ้นหากภาพรวมของการค้าอ่อนแอลง โดยเว่ยเจีย ชาน ประธานบริหารของบริษัทพีเอจี (PAG) กล่าวว่า สภาพแวดล้อมภายนอกที่ยากลำบากจะกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่จีนหันมาให้ความสำคัญกับการบริโภคมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมานั้น ทางการจีนระบุว่าอุปสงค์ที่อ่อนแอลงถือเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2564 และได้ให้คำมั่นในระหว่างการประชุมคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ว่าจะสนับสนุนการอุปโภคบริโภค
ขณะที่องค์กรต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เรียกร้องให้จีนเร่งปรับสมดุลทางเศรษฐกิจด้วยการหลีกเลี่ยงการพึ่งพาการลงทุนและการค้ามากจนเกินไป