ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มผันผวนในวันนี้ (4 พ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันที่ 4-8 พ.ย.นี้ ท่ามกลางความหวังที่ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
-- นักลงทุนจับตาทิศทางราคาน้ำมันในวันนี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส มีมติเลื่อนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนธ.ค. ออกไปอีก 1 เดือน เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจีน และอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัสนั้น ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันให้อ่อนแอลง
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากสื่อรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า โอเปกพลัสอาจเลื่อนการเพิ่มการผลิตน้ำมันที่วางแผนไว้ในเดือนธ.ค.ออกไปหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้น เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่ซบเซาและอุปทานที่เพิ่มขึ้น
-- นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 1.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 98.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 100,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
-- โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า หากเขาได้รับเลือกตั้ง เขาจะเรียกเก็บภาษี 100% จากสเตลแลนติส (Stellantis) หากบริษัทผลิตรถยนต์แห่งนี้พยายามย้ายตำแหน่งงานจากสหรัฐอเมริกาไปยังเม็กซิโก
ทรัมป์กล่าวในการหาเสียงที่รัฐมิชิแกนซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิเลือกตั้งที่สำคัญ ขณะที่สเตลแลนติสระบุว่า บริษัทกำลังส่งรถยนต์ที่ผลิตโดยไครสเลอร์ (Chrysler) ไปยังเม็กซิโก โดยไครสเลอร์เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ของสเตลแลนติส
-- ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในยุโรปเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า การปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้านั้นส่งผลกระทบต่อยอดขาย
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยดาตาฟอร์ซบ่งชี้ว่า แบรนด์จีนมีส่วนแบ่งตลาด 8.5% ในการจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าทั่วทั้งภูมิภาคยุโรปในเดือนก.ย. ลดลงจาก 9.6% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนข้อมูลจากจาโต ไดนามิกส์ (Jato Dynamics) ซึ่งติดตามตลาดยานยนต์บ่งชี้ว่า แบรนด์ MG ของบริษัท Saic Motor มียอดขายลดลงมากที่สุดถึง 42%
ยอดขายรถ EV ยังคงลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนก.ค. เมื่อสหภาพยุโรป (EU) ได้สั่งเก็บภาษีชั่วคราวสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน ทำให้อัตราภาษีนำเข้าพุ่งสูงถึง 45% และหลังจากการเจรจาหลายเดือนก็ยังไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาททางการค้าได้ โดยภาษีนำเข้าใหม่จึงมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้
-- S&P Dow Jones Indices เปิดเผยว่า หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) จะถูกนำเข้าไปรวมในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ แทนที่หุ้นอินเทล (Intel) ที่จะถูกถอดออกหลังรวมอยู่ในดัชนีดาวโจนส์มานาน 25 ปี โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ก่อนเริ่มการซื้อขายในวันศุกร์ที่ 8 พ.ย.นี้
อินเทลเคยเป็นผู้นำที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมการผลิตชิป แต่ได้สูญเสียความได้เปรียบด้านการผลิตให้กับคู่แข่งอย่างบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (TSMC) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และพลาดโอกาสในการเข้าร่วมในกระแสการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) หลังจากดำเนินการผิดพลาดหลายประการ ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจไม่ลงทุนในโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นเจ้าของแชตจีพีที (ChatGPT)
-- คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ต่างเดินทางไปยังรัฐนอร์ทแคโรไลนาในวันเสาร์ (2 พ.ย.) เพื่อพยายามรวบรวมการสนับสนุนในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) เพียง 3 วัน
วันเสาร์นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่รองประธานาธิบดีแฮร์ริสและอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางไปเยือนรัฐเดียวกันในวันเดียวกัน ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งของ 7 รัฐที่อาจจะตัดสินผลการเลือกตั้ง โดยผลสำรวจความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่า การแข่งขันสูสีกันอย่างมาก
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันนี้ (4 พ.ย.) ได้แก่ อินเดียเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จาก HSBC, ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จาก HCOB, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จาก HCOB, อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จาก HCOB และสหรัฐฯ เปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.