World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 7, 2024 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดลบในวันนี้ (7 พ.ย.) หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้

สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ (NBC News) คาดการณ์ว่า ทรัมป์จะคว้าชัยชนะด้วยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 291 เสียง รวมถึงในรัฐสำคัญที่มีผลชี้ขาด ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจีย

-- สำนักข่าว CNN รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ได้กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐแล้ว โดยล่าสุด CNN คาดว่า นายทรัมป์ได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งมากถึง 276 เสียง เกินกว่าระดับ 270 เสียงสำหรับการเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนนางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้เพียง 223 เสียง

นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังมีแนวโน้มกวาดชัยชนะทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยขณะนี้ CNN รายงานว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว โดยมีอยู่ 51 เสียง เกินกว่าระดับ 50 เสียงที่จำเป็นในการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 42 เสียง ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ขณะนี้พรรครีพับลิกันได้รับ 201 เสียง ใกล้ระดับ 218 เสียงสำหรับการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 177 เสียง

-- คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ได้กล่าวสุนทรพจน์ยอมรับผลการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ณ มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเธอกล่าวว่าเธอรู้สึกภูมิใจกับการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ และเน้นย้ำว่า "เมื่อเราแพ้การเลือกตั้ง เราก็ยอมรับผลการเลือกตั้งนั้น"

"ดิฉันภูมิใจมากกับการแข่งขันที่เราดำเนินการและวิธีการที่เราทำ โดยตลอด 107 วันของการหาเสียงนี้ เราตั้งใจที่จะสร้างชุมชนและพันธมิตรที่เข้มแข็ง โดยดึงคนจากทุกสาขาอาชีพและพื้นเพที่หลากหลายมารวมกัน เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยความรักต่อประเทศ ด้วยความกระตือรือร้นและความสุขในการต่อสู้เพื่ออนาคตของอเมริกา และเราทำสิ่งนี้ด้วยความเชื่อว่าเรามีสิ่งที่เหมือนกันมากมาย มากกว่าสิ่งที่แบ่งแยกเรา" แฮร์ริสกล่าวในการปราศรัยที่มหาวิทยาลัยที่เธอเคยศึกษา นอกจากนี้ แฮร์ริสยังเตรียมโทรศัพท์หาโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อแสดงความยินดีต่อชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

-- กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า รัสเซียพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ขณะที่ยังคงให้ความสนใจต่อการบรรลุเป้าหมายการใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน

"รัสเซียจะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่เมื่อมีการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในทำเนียบขาว โดยรัสเซียจะยังคงปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และยังคงให้ความสนใจต่อการบรรลุเป้าหมายของการใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร"

-- มาร์ค โมเบียส ผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีความแข็งแกร่ง หากโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ

"ถ้าคุณทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง พร้อมกับพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง คุณก็จะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทะยานขึ้น" โมเบียสกล่าว

-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันในวันพุธ (6 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 68.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.

-- ธนาคารกลางมาเลเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3% ในเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) และระบุว่าธนาคารกลางจะยังคงใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ ธนาคารกลางระบุว่า ดัชนีต่างๆ ได้บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยได้รับการผลักดันจากการใช้จ่ายภายในประเทศ รวมทั้งการส่งออกในระดับสูง

-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันนี้ (7 พ.ย.) ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., จีนเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค. และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค., เยอรมนีเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.จากฮาลิแฟกซ์ และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อียูเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ