ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดลบในวันนี้ (7 พ.ย.) หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้
สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ (NBC News) คาดการณ์ว่า ทรัมป์จะคว้าชัยชนะด้วยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 291 เสียง รวมถึงในรัฐสำคัญที่มีผลชี้ขาด ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจีย
-- สำนักข่าว CNN รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ได้กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐแล้ว โดยล่าสุด CNN คาดว่า นายทรัมป์ได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งมากถึง 276 เสียง เกินกว่าระดับ 270 เสียงสำหรับการเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนนางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้เพียง 223 เสียง
นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังมีแนวโน้มกวาดชัยชนะทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยขณะนี้ CNN รายงานว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว โดยมีอยู่ 51 เสียง เกินกว่าระดับ 50 เสียงที่จำเป็นในการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 42 เสียง ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ขณะนี้พรรครีพับลิกันได้รับ 201 เสียง ใกล้ระดับ 218 เสียงสำหรับการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 177 เสียง
-- คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ได้กล่าวสุนทรพจน์ยอมรับผลการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ณ มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเธอกล่าวว่าเธอรู้สึกภูมิใจกับการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ และเน้นย้ำว่า "เมื่อเราแพ้การเลือกตั้ง เราก็ยอมรับผลการเลือกตั้งนั้น"
"ดิฉันภูมิใจมากกับการแข่งขันที่เราดำเนินการและวิธีการที่เราทำ โดยตลอด 107 วันของการหาเสียงนี้ เราตั้งใจที่จะสร้างชุมชนและพันธมิตรที่เข้มแข็ง โดยดึงคนจากทุกสาขาอาชีพและพื้นเพที่หลากหลายมารวมกัน เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยความรักต่อประเทศ ด้วยความกระตือรือร้นและความสุขในการต่อสู้เพื่ออนาคตของอเมริกา และเราทำสิ่งนี้ด้วยความเชื่อว่าเรามีสิ่งที่เหมือนกันมากมาย มากกว่าสิ่งที่แบ่งแยกเรา" แฮร์ริสกล่าวในการปราศรัยที่มหาวิทยาลัยที่เธอเคยศึกษา นอกจากนี้ แฮร์ริสยังเตรียมโทรศัพท์หาโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อแสดงความยินดีต่อชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
-- กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า รัสเซียพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ขณะที่ยังคงให้ความสนใจต่อการบรรลุเป้าหมายการใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน
"รัสเซียจะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่เมื่อมีการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในทำเนียบขาว โดยรัสเซียจะยังคงปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และยังคงให้ความสนใจต่อการบรรลุเป้าหมายของการใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร"
-- มาร์ค โมเบียส ผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีความแข็งแกร่ง หากโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
"ถ้าคุณทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง พร้อมกับพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง คุณก็จะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทะยานขึ้น" โมเบียสกล่าว
-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันในวันพุธ (6 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 68.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
-- ธนาคารกลางมาเลเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3% ในเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) และระบุว่าธนาคารกลางจะยังคงใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางระบุว่า ดัชนีต่างๆ ได้บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยได้รับการผลักดันจากการใช้จ่ายภายในประเทศ รวมทั้งการส่งออกในระดับสูง
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันนี้ (7 พ.ย.) ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., จีนเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค. และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค., เยอรมนีเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.จากฮาลิแฟกซ์ และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อียูเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย