สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของญี่ปุ่นเร่งรัดให้โนมูระ โฮลดิงส์ (Nomura Holdings) ตรวจสอบสาเหตุของการปล้นและพยายามฆ่าที่กระทำการโดยอดีตพนักงานรายหนึ่งของบริษัท และหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
แหล่งข่าวระบุว่า สำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่นต้องการให้โนมูระตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และวิเคราะห์สาเหตุและเบื้องหลังของเหตุการณ์ โดยทางหน่วยงานจะติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานตามขั้นตอนเหล่านี้กับโนมูระต่อไป
โนมูระ ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ระบุว่า "ตามมาตรการที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 พ.ย. โนมูระจะเพิ่มความพยายามในการบังคับให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด และมุ่งมั่นกอบกู้ความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าโนมูระกำลังถูกเพ่งเล็งจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยเมื่อเดือนที่แล้ว หน่วยงานได้สั่งปรับโนมูระจากการที่บริษัทเข้าไปแทรกแซงตลาดซื้อขายพันธบัตรล่วงหน้าเมื่อปี 2564 ซึ่งเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวทำให้ลูกค้าบางรายหันไปใช้บริการซื้อขายและรับประกันพันธบัตรของบริษัทคู่แข่งแทน
ทั้งนี้ คำสั่งล่าสุดของหน่วยงานกำกับดูแลมีขึ้นหลังมีรายงานว่า ชายวัย 29 ปีถูกจับกุมในข้อหาวางยาลูกค้าสูงอายุและภรรยาของเขาในเมืองฮิโรชิม่า จากนั้นขโมยเงินสดมูลค่าประมาณ 26 ล้านเยน (170,000 ดอลลาร์) ไปจากบ้านของผู้เสียหายก่อนจุดไฟเผา โดยผู้ต้องสงสัยถูกตั้งข้อหาปล้นทรัพย์ วางเพลิง และพยายามฆ่า
แม้ว่าผู้เสียหายจะสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ข่าวนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงินของญี่ปุ่น โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ต้องสงสัยเป็นพนักงานของบริษัทโนมูระในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในเดือนก.ค.