นักเศรษฐศาสตร์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ลงอีกครั้ง และคาดว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยการสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์มีขึ้นก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกลับเข้ามาคุมอำนาจในทำเนียบขาวพร้อมด้วยนโยบายกีดกันทางการค้าที่อาจจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่
นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้จะขยายตัว 2.3% ในปี 2567 และขยายตัว 2% ในปี 2568 ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า GDP ปี 2567 จะขยายตัว 2.4% และ GDP ปี 2568 จะขยายตัว 2.1%
การสำรวจครั้งล่าสุดจัดทำขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อ่อนแอลงอยู่แล้วโดยไม่ขึ้นกับว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจยังสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองลบที่ว่า เกาหลีใต้อาจจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการภาษีการค้าของทรัมป์
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องอาจจะสร้างความกังวลให้กับธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) และอาจทำให้ BOK ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อพยุงเศรษฐกิจในปีหน้า โดยคณะกรรมการ BOK มีกำหนดอัปเดตตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า BOK จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 2.5% ภายในไตรมาสที่สามของปีหน้า จากปัจจุบันที่ระดับ 3.25% ซึ่งเร็วกว่าการคาดการณ์ในการสำรวจครั้งก่อนหนึ่งไตรมาส