พายุโซนร้อน "โทราจี" (Toraji) ทวีกำลังแรงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และกลายเป็นไต้ฝุ่นขณะพัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ซ้ำเติมพืชผลทางการเกษตรในประเทศที่ถูกพายุหลายลูกพัดถล่มอย่างต่อเนื่องในปีนี้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมหลายล้านดอลลาร์
หน่วยงานพยากรณ์อากาศของฟิลิปปินส์ระบุว่า ก่อนขึ้นฝั่ง ไต้ฝุ่นโทราจี หรือที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า "นีกา" (Nika) มีความเร็วลมอยู่ที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งความเร็วลมดังกล่าวเทียบเท่ากับพายุเฮอร์ริเคนระดับ 1 ตามมาตรวัดแซฟเฟียร์-ซิมป์สัน (Saffir-Simpson) ซึ่งมี 5 ระดับ
ขณะที่มีการคาดการณ์ด้วยว่า พายุไต้ฝุ่นลูกดังกล่าวจะหอบน้ำฝนสูง 200 มิลลิเมตรถล่มบางพื้นที่บนเกาะลูซอน ซึ่งรวมถึงจังหวัดออโรราและอิซาเบลา และคาดว่า โทราจีจะเคลื่อนตัวข้ามตอนเหนือของเกาะลูซอนในวันนี้ และออกสู่ทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า พายุลูกดังกล่าวก่อตัวขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่พายุไต้ฝุ่น "หยินซิ่ง" (Yinxing) พัดถล่มชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะลูซอนถึงสองครั้ง ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่
กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่า พายุหยินซิ่งสร้างความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรคิดเป็นมูลค่า 278 ล้านเปโซ (4.8 ล้านดอลลาร์) และมูลค่าความเสียหายอาจเพิ่มสูงกว่านี้หลังการประเมินเพิ่มเติม โดยอาจทำให้มูลค่าความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรจากพายุและลมมรสุมในปีนี้สูงถึง 1.15 หมื่นล้านเปโซ (197 ล้านดอลลาร์) เป็นอย่างน้อย